feedburner
Enter your email address:

Delivered by FeedBurner

feedburner count

Google ประกาศว่าสามารถเก็บข้อมูลได้ 1 Trillion Pages

Labels:

Google ได้ออกมาประกาศว่าสามารถเก็บข้อมูลได้อย่างน่าอัศจรรย์ถึง 1 ล้านล้าน หรือ trillion หน้า ทั้งที่ในปี 1998 มีเพียง 26 ล้านหน้าเท่านั้นเองและถัดมาในปี 2000 ก็สามารถกระโดดขึ้นมาได้ถึง 1 พันล้านหน้า และในปัจจุบัน google index กำลังเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยสถิติการเก็บข้อมูลถึงหลักพันล้านต่อวันเลยทีเดียว ในอดีตที่ผ่านมา google ได้ใช้จำนวนของหน้าหลักเพื่อแสดงถึงจำนวนของเว็บไซต์ แต่ก็ได้ถูกลดความสำคัญลงในปี 2005

เมื่อการแข่งขันระหว่าง search engine ได้สูงขึ้นตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา ขนาดของ index ก็ได้ถูกนำมาเปรียบเทียบระหว่างผู้ให้บริการทั้งหลาย และในปัจจุบันจำนวน index ที่เก็บได้ของ search engine
ไม่ได้เป็นสิ่งสำคัญอีกต่อไป แต่ผลการค้นหาที่ถูกต้องตามความต้องการของผู้ใช้บริการเป็นสิ่งสำคัญมากกว่า และสิ่งนี้เองที่สามารถทำให้ google เป็นผู้นำใน search engine market เหนือค่ายอื่นๆอย่างเช่น Altavista, Excite, หรือ HotBot


แต่สิ่งที่น่ากลัวสำหรับ google ในตอนนี้ก็คือการเจรจาต่อรองเพื่อรวมกันระหว่าง Microsoft กับ Yahoo ในส่วนของ Yahoo Search Business ซึ่งถ้าสามารถตกลงหรือร่วมมือกันได้ google จะตกเป็นรองในทันที






Social Bookmark Delicious 2.0 กำลังจะมาในไม่ช้า

Labels: ,

Delicious หนึ่งในเว็บไซต์ Social Bookmark ยอดฮิต ที่ให้บริการ Submit Story คู่แข่งของ Digg แต่จะต่างตรงที่ Del.icio.us นั้นสามารถใส่เพียงแค่ชื่อเรื่อง ก็สามารถนำ traffics ไปยังเว็บไซต์หรือบล๊อคของเราได้ หลังจากในเดือนกันยายน ปีที่แล้ว Yahoo ไม่สามารถออก ตัว Delicious Beta ได้สำเร็จที่ Silicon Valley นั้น และเมื่อเดือนที่ผ่านมา ทีมงาน Delicious ก็ได้ให้คำแนะนำในการที่จะเพิ่ม service สำหรับการเขียนบล๊อคให้กับสมาชิกนั้น ตอนนี้ก็พร้อมแล้วสำหรับเวอร์ชันใหม่

รวมถึงการปรับปรุงระบบ caching ของการจัดเก็บข้อมูลเพื่อลดโหลดของ database servers และการเรียกดูหน้าแต่ละหน้าของสมาชิก ทางทีมงานของ Delicious ได้ทดสอบระบบจนแน่ใจแล้วว่าจะไม่มีปัญหาหากนำมาใช้งานจริงๆ ดังนั้นใครที่เป็นแฟนตัวจริงของ Delicious ก็เตรียมเฮได้เลยครับ

ตัวอย่างหน้าตาของเวอร์ชัน 2.0



มีอะไรใหม่บ้างในเวอร์ชัน 2.0


ที่มา : TechCrunch



Google Adwords คืออะไร

Labels:


Google Adwords เป็นการโฆษณารูปแบบหนึ่งโดยผ่านทาง Search Engine ในรูปแบบ Pay Per Click (PPC) หรือ Cost Per Click (CPC) ซึ่งจะต้องเสียค่าบริการให้กับผู้ให้บริการ ซึ่งก็คือ Google ทุกครั้ง เมื่อมีคนคลิกลิงค์เพื่อเข้าชมเว็บไซต์ โดยโฆษณาของคุณจะ ปรากฏตาม Keyword ที่คุณเลือก ซึ่งสามารถรับประกันได้ว่า อันดับของเว็บไซต์ของคุณจะต้อง อยู่ในตำแหน่งที่คุณต้องการในส่วน Sponsored ของ Google สังเกตุจากเมื่อเราค้นหาอะไรซักอย่างจาก google ผลที่ได้จากการค้นหาจะมีกรอบสี่เหลี่ยมอยู่ด้านบน และด้านขวาเสมอ
หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือเทคนิคการลงโฆษณาเว็บไซต์ เพื่อ ขายสินค้าและบริการของบน Google.com เมื่อทำตามเทคนิคที่แนะนำอย่างถูกต้องแล้ว จะช่วยให้โฆษณาปรากฏขึ้นทันทีที่มีคนค้นหาสินค้าของคุณบน Google.com ซึ่งเป็นขณะที่เขากำลังต้องการซื้อพอดี ทำให้เขาตัดสินใจสั่งซื้อ สินค้า โดยไม่รอช้า และนี่เองคือจุดที่จะสร้างรายได้ออนไลน์
Google adwords นั้นในปัจจุบัน สามารถนำมาทำ seo หรือโปรโมทเว็บไซต์ได้ และยังเปิดช่องว่างให้กับเราที่เป็นนักท่องเน็ตสามารถเป็นตัวแทนโฆษณาสร้างรายได้ออนไลน์เข้ากระเป๋า ให้กับบริษัทต่างๆที่ต้องการขายสินค้าผ่านทาง internet หรือสมัครต่อกับตัวแทนโฆษณารายใหญ่ Affiliate Network อย่างเช่น commission junction(cj.com) ,ClickBank เป็นต้น ก็คงมีหลายคนสงสัยว่า แล้วเราที่เป็นตัวแทนโฆษณานั้น ต้องเสียค่าประมูล keywords ในการทำโฆษณา แล้วมันจะมีรายได้จากตรงไหน คำตอบก็คือ ค่าประมูล keyword นั้นมีค่าต่ำมากเมื่อเทียบกับ การแบ่งปันผลตอบแทนจากพวกบริษัทต่างๆ หรือ affiliate network เช่น ค่าประมูล keywords ของเราอยู่ที่ 0.01$/click ถ้าหากว่ามีคน ใช้ search engine ค้นหาแล้วแวะเข้ามาเจอโฆษณาของเรา 1,000 คน และมีคน click 10 คน และซื้อสินค้าเพียง 1 คน ก็สรุปได้ว่า เราต้องจ่ายค่าโฆษณาเป็นเงิน 10x0.01=0.1$ และได้ผลตอบแทนจากการซื้อสินค้าสมมติว่าเป็นเงิน 10$ แสดงว่าเราสามารถทำเงินได้ 9.9$ นี่เป็นเพียงตัวอย่างเบื้องต้นที่พอจะทำให้รู้ว่าเราจะสร้างรายได้มาจากตรงไหน จริงๆแล้ว พวกค่าประมูล keywords นั้นจะมีค่าแตกต่างกันขึ้นอยู่กับ ความนิยมของคำหรือการแข่งขันที่สูง ซึ่งเราจะต้อง balance กับผลตอบแทนจากการขายสินค้าให้ดีเพื่อไม่ให้ขาดทุน
การที่เราจะทำ adwords ให้มีรายได้นั้นจะได้ผล เฉพาะในแถบที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง และมีความนิยมใน e-commerce เช่น usa,canada,europe เป็นต้น ส่วนในประเทศไทย นิยมใช้เพื่อสร้าง traffics ให้กับเว็บไซต์เพื่อเพิ่มอันดับ ranking ใน search engine ให้สูงขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ถ้าอยากรู้ภาพรวมในการตลาดออนไลน์ทั้งหมด ให้ไปอ่านบทความที่ผมได้เขียนไปแล้วเรื่อง ภาพรวมของระบบ Internet Marketing ครับ




จะเริ่มทำเงินจากบล๊อกได้ยังไง?

Labels: ,

สร้างรายได้จากบล๊อค รับบทความฟรีจาก Puritech
จะเริ่มทำเงินจากบล๊อกได้ยังไง?

หลังจากที่กระแสการเขียน Blog ได้รับความนิยมยอดฮิตติดจรวด เรียกได้ว่า เติบโตแซงหน้าเว็บไซต์ขึ้นมาเลยทีเดียว จากที่ผมเคยเขียนบล๊อคเล่นๆ และในช่วงนั้นก็มีความสนใจเกี่ยวกับการสร้างรายได้ออนไลน์อยู่ด้วย ใช้เวลาศึกษา ทดลอง ผิดๆถูกๆ อยู่หลายปีจนรู้ว่าอันไหนที่ทำแล้วได้เงินจริงๆ อันไหนที่ทำไปก็สูญเปล่า ลองมาดูกันเลยดีกว่า

รวยด้วยบล๊อค-ทำเงินจากบล๊อคได้ยังไง?
Advertising Programs -จากระบบโฆษณา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Internet Marketing ที่ผมได้พูดไปแล้วในเรื่องของ "ภาพรวมของระบบ Internet Marketing " ซึ่งจะทำให้เข้าใจการทำงานของระบบโดยรวมทั้งหมด ส่วนระบบโฆษณาที่ได้รับความนิยมและทำเงินได้อย่างมากจากชาวบล๊อคทั้งไทยและต่างประเทศก็คือ Google - Adsense. เป็นระบบโฆษณาที่เรียกว่า Contextual Ads อันนี้บอกได้เลยว่าสุดยอด เพราะเป็นของค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Google ซึ่งผมเองก็ทำอยู่ จริงๆแล้วก็มีคู่แข่งจากค่ายอื่นอีก เช่น MSN Adcenter เป็นของ Microsoft and YPN เป็นของ yahoo นั่นเอง (อันนี้ผมยังไม่ได้ลอง) ส่วนระบบโฆษณาอื่นๆก็เช่น Chitika’s eMiniMalls , WidgetBucks, Text Link Ads. Azoogle Ads, Intelli Txt, DoubleClick, Tribal Fusion, Adbrite, Clicksor, AdHearUs, Kanoodle, Pheedo, TextAds, Bidvertiser, Fastclick , Value Click แต่ระบบโฆษณาพวกนี้จะรองรับเฉพาะ blog ที่เป็นภาษาอังกฤษนะครับ ก่อนที่เราจะเริ่มทำควรศึกษาระบบแต่ละตัวให้ดีก่อน เช่น รองรับภาษาอะไร กฏระเบียบ ข้อบังคับเป็นยังไงบ้าง ตัวอย่างบล๊อคที่ทำด้วยAdsense เช่น http://adsamoney.blogspot.com/ , http://5sexystar.blogpot.com/

Sponsorship - จากสปอนเซอร์ต่างๆ แน่นอนครับถ้าหากเว็บไซต์ หรือบล๊อคของเรามีเนื้อหาที่มีคุณภาพและดังขึ้นมาเมื่อไหร่ เดี๋ยวเงินก็จะตามมาเอง

Affiliate Programs -จากระบบการเป็นหุ้นส่วน หรือเรียกง่ายๆว่าการเป็นตัวแทนโฆษณานั่นเอง โดยมีข้อตกลงที่บริษัทจ่ายเงินให้หากสามารถนำคนเข้ามาเยี่ยมชมในเว็บไซต์หรือซื้อสินค้าต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของ banner ที่ดังๆเช่น Amazon, Linkshare, Clickbank และ Commission Junction

Digital Assets -ผลิตภัณฑ์ดิจิตอล ทำเงินจากการขาย e-book หรือการจัดอบรมในหลักสูตรต่างๆ เป็นต้น

Blog Network Opportunities -สร้างโอกาสที่ดีให้กับบล๊อค เป็นเรื่องที่ยากมากที่เราจะไปแข่งขันหรือสู้รบกับบล๊อคระดับบิ๊กๆ ในประเภทเนื้อหาเดียวกัน แต่เราควรจะเขียนบล๊อคของเราให้มีคุณภาพ ลักษณะโดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ โดยไม่ต้องคำนึงถึงการตลาดจนมากเกินไป เท่านี้เองก็จะสามารถแฟนพันธ์แท้ของเราเอาไว้ได้

Business Blog Writing Opportunities -รับจ้างเขียนบล๊อค ถ้าบล๊อคของเรามีคนมาเยี่ยมชมหรือเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังมากๆ ก็สามารถรับเขียนเรื่องให้กับบริษัทต่างๆ ที่สนใจลงโฆษณาได้ ซึ่งเป็นการโฆษณารูปในรูปแบบใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจ หลีกเลี่ยงจากรูปแบบการโฆษณาแบบเดิมๆ

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งและวิธีการที่สามารถทำเงินได้จากบล๊อค ยังมีวิธีอีกมากมาย รอเราอยู่และผมก็จะพยายามนำมาแนะนำในเรื่องต่อไป

ที่มา : problogger.net



Thai Digg Clone Community Submit Story

Labels:

เมื่อพูดถึงเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านการ submit หรือส่งเรื่องราวต่างๆไปเก็บไว้ และทำการลิงค์กลับไปยังแหล่งที่มาของเนื้อหานั้นๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น Digg ซึ่งผมเองก็ใช้อยู่ครับ เพราะมันช่วยเรานำ traffics กลับมาที่บล๊อกของเราได้อีกทางหนึ่ง ส่วนที่ผมกำลังจะพูดถึงก็คือ เว็บไซต์ Digg Clone ก็เป็นเรื่องธรรมดาครับที่เมื่อดังแล้วก็ต้องมีการเลียนแบบ ของเมืองนอกนั้นมีเยอะมาก แต่ผมขอเน้นเฉพาะเว็บไซต์ไทย ซึ่งจะช่วยให้เว็บไซต์ หรือบล๊อคไทยๆ ที่มีเนื้อหาเป็นภาษาไทย เข้าไปใช้ในการทำ seo ให้กับเว็บไซต์ของตัวเอง อีกทั้งยังเป็นที่แบ่งปัน แลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆ สามารถเป็น Learning Center ได้ด้วย ที่ผมใช้อยู่ก็มีดังนี้ครับ
1.http://zickr.com/ มีหลายหมวดหมู่ให้เลือก
2.http://techkr.com/ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเทคโนโลยี
3.http://blognone.com/ เรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์ โปรแกรม อินเตอร์เน็ต
4.http://siammoney.net เกี่ยวกับการสร้างรายได้ออนไลน์เป็นหลัก และมีหมวดหมู่อื่นๆอีกมากมาย



การติดตั้ง drupal เบื้องต้นสุดยอด CMS portal

Labels:

อันดับแรกควรตรวจสอบความต้องการของโปรแกรม ในกรณีที่ติดตั้ง Drupal version 5.5 โดย Web Server หรือ Hosting ที่ใช้ควรมี PHP4 (4.3.3 or greater) or PHP5 และฐานข้อมูลจะเป็น SQL หรือ PostgreSQL ก็ได้(version สูงกว่า 4.1 จะดีมากๆ) ถ้าหากติดตั้ง version 5.7 ขึ้นไป ใช้ PHP4 (4.3.5 or greater) or PHP5

การติดตั้ง Drupal
1. Download สามารถไป download version ใหม่ล่าสุดของ Drupal ได้ที่ http://drupal.org หลังจาก download มาเรียบร้อยแล้วให้ทำการ extract file ออกมาแล้ว upload หรือ copy ไปไว้ที่ web server ใน root directory ที่จะใช้เป็นหน้าหลักของเว็บไซต์

2. สร้าง Drupal database ก่อนที่จะทำการ install Drupal จะต้องทำการสร้าง Database และ กำหนดค่า privileges ให้กับ user ที่จะ connect มาที่ database นี้ให้พร้อมเสียก่อน ในขั้นตอน Install Drupal จำเป็นจะต้องรู้ username, password และ hostname(ถ้าเป็นเครื่องเดียวกับ web server ให้ใส่ว่า localhost) เสียก่อน หรืออ่านคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่ไฟล์ INSTALL.mysql.txt (for MySQL) or INSTALL.pgsql.txt

3. เรียก Install script เพื่อให้เป็นการง่ายในการติดตั้ง Drupal ได้เตรียม install script ไว้ให้เรียบร้อยแล้วเพื่อช่วยในการใส่ค่า variable ต่างๆที่จำเป็นต้องใช้ เช่น ค่า base URL, base Name,database connection โดยในการเรียก install script ให้เปิด web browser ไปที่ base url ของ website (เช่น http://siammoney.net) ซึ่งจะ run script อัตโนมัติ จากนั้นให้ใส่ค่า parameter ต่างๆ ตามที่ install script กำหนดให้ใส่

4. Configure Drupal เมื่อเสร็จจาก install script เราจะถูก redirect ไปยัง หน้าแรกของ Drupal ตรง step one ให้คลิ๊กที่ create the first account ซึ่งจะเป็นการสร้าง administrator account หลักเพื่อที่จะใช้สำหรับ จัดการและกำหนดค่าต่างๆของ Drupal ได้ เมื่อสร้าง account เสร็จแล้วระบบจะ login และไปยังหน้า profile โดยอัตโนมัติให้สังเกตุ password ที่โชว์ขึ้นมา ข้างล่างโดยสามารถแก้ไขด้วยการ ใส่ new password และใส่ซ้ำอีกครั้ง

5. Check errors and Cron tasks ทำการตรวจเช็ค errors ต่างๆ และ run ระบบ cron ซึ่งเป็นตัวควบคุมการทำงานของ module ต่างๆ หรือสามารถ run ได้ที่หน้า http://www.example.com/cron.php

ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยสำหร้บการติดตั้ง Drupal เบื้องต้นส่วนการ set up ค่าหรือติดตั้ง module,themes ต่างๆจะมาเขียนในครั้งหน้าต่อไปครับ



Wordpress SEO for Beginners การปรับแต่งสำหรับมือใหม่

Labels: ,

ตามสถิติของผู้ใช้ Wordpress 0.8% จากเว็บไซต์ทั้งหมด ซึ่งได้ใช้ Wordpress สำหรับทำ bloging CMS (Content Mamagement System) โดยที่ จำนวนของ blog ได้ถูกสร้างขึ้นเป็น 1000 บล๊อคในแต่ละวัน แต่ blog เหล่านี้ยังไม่ได้ถูกปรับแต่งเพื่อทำอันดับที่ดีขึ้นใน Search Engine ซึ่งบทความนี้จะแนะนำเทคนิคที่จะ ติดตั้งและปรับแต่ง wordpress อย่างรวดเร็วเพื่อผลที่ดีขึ้นของ SEO

Step I – Blog Title & Taglines ใส่ชื่อบล๊อคและคำอธิบายสั้นๆ

โดยหลังจากที่ติดตั้ง wordpress เสร็จเรียบร้อยแล้ว (ถ้ายังให้ไปดูที่........ ) ไปที่เมนู Options -> General tab จากนั้นให้ใส่ชื่อและคำอธิบายเกี่ยวกับบล๊อคที่สื่อความหมายให้ตรงกับเนื้อหาได้เป็นอย่างดี


Step II – Update Services อัพเดทผู้ให้บริการจากเว็บไซต์หรือ Search Engine ต่างๆ

ไปที่Writing tab ที่อยู่ถัดจาก General tab (ถ้าใช้ wordpress 2.5 จะอยู่ใต้เมนู Setting) เลื่อนลงไปด้านล่างที่ Update Services จะเห็น link ต่างๆ มากมายซึ่งเราสามารถเพิ่ม link เข้าไปได้อีกมากมาย เมื่อเราเขียนบทความ ก็จะถูกส่งไปยังเว็บไซต์ต่างๆเหล่านี้เพื่อให้รู้ว่าบล๊อกของเราได้มีการปรับปรุงแล้วนั่นเอง และยังช่วงทำให้บล๊อคเป็นที่รู้จักของพวก social เช่น Technorati รวมทั้งช่วยเพิ่ม Traffics ให้กับบล๊อคอีกด้วย

นี่เป็นรายชื่อของ Update Services ที่สำคับและน่าจะนำไปใส่ในบล๊อคของเราครับ

http://blogsearch.google.com/ping/RPC2

http://1470.net/api/ping

http://api.feedster.com/ping

http://api.feedster.com/ping.php

http://api.moreover.com/ping

http://api.moreover.com/RPC2

http://api.my.yahoo.com/RPC2

http://api.my.yahoo.com/rss/ping

http://bblog.com/ping.php

http://bitacoras.net/ping

http://blogdb.jp/xmlrpc

http://blog.goo.ne.jp/XMLRPC

http://blogsearch.google.com/ping/RPC2

http://blogmatcher.com/u.php

http://bulkfeeds.net/rpc

http://coreblog.org/ping/

http://mod-pubsub.org/kn_apps/blogchatt

https://phobos.apple.com/WebObjects/MZFinance.woa/wa/pingPodcast

http://ping.amagle.com/

http://ping.bitacoras.com

http://ping.bloggers.jp/rpc/

http://ping.blogmura.jp/rpc/

http://ping.blo.gs/

http://ping.cocolog-nifty.com/xmlrpc

http://pinger.blogflux.com/rpc/

http://ping.exblog.jp/xmlrpc

http://ping.feedburner.com

http://ping.myblog.jp

http://pingqueue.com/rpc/

http://ping.blogg.de/

http://ping.rootblog.com/rpc.php

http://ping.syndic8.com/xmlrpc.php

http://ping.weblogalot.com/rpc.php

http://ping.weblogs.se/

http://rcs.datashed.net/RPC2/

http://ping.weblogs.se/

http://rcs.datashed.net/RPC2/

http://rpc.blogbuzzmachine.com/RPC2

http://rpc.blogrolling.com/pinger/

http://rpc.britblog.com/

http://rpc.icerocket.com:10080/

http://rpc.newsgator.com/

http://rpc.pingomatic.com/

http://rpc.tailrank.com/feedburner/RPC2

http://rpc.technorati.com/rpc/ping

http://rpc.weblogs.com/RPC2

http://rpc.wpkeys.com/

http://services.newsgator.com/ngws/xmlrpcping.aspx

http://signup.alerts.msn.com/alerts-PREP/submitPingExtended.doz

http://topicexchange.com/RPC2

http://trackback.bakeinu.jp/bakeping.php

http://www.a2b.cc/setloc/bp.a2b

http://www.bitacoles.net/ping.php

http://www.blogdigger.com/RPC2

http://www.blogoole.com/ping/

http://www.blogoon.net/ping/

http://www.blogpeople.net/servlet/weblogUpdates

http://www.blogroots.com/tb_populi.blog?id=1

http://www.blogshares.com/rpc.php

http://www.blogsnow.com/ping

http://www.blogstreet.com/xrbin/xmlrpc.cgi

http://www.holycowdude.com/rpc/ping/

http://www.lasermemory.com/lsrpc/

http://www.imblogs.net/ping/

http://www.mod-pubsub.org/kn_apps/blogchatter/ping.php

http://www.newsisfree.com/RPCCloud

http://www.newsisfree.com/xmlrpctest.php

http://www.popdex.com/addsite.php

http://www.snipsnap.org/RPC2

http://www.weblogues.com/RPC/

http://xmlrpc.blogg.de


Step III – Modifying the Title Tags of your Wordpress Theme ทำการปรับปรุงคำอธิบายเกี่ยวกับบล๊อค ใน theme

ประโยคหรือคำอธิบาย มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการทำ SEO และทำให้ Search Engine รู้จักและเข้าใจลักษณะเนื้อหาของบล๊อคมากขึ้น โดยไปที่เมนู Presentation -> Theme Editor (สำหรับ version 2.5 จะอยู่ในเมนู Design) จากนั้นเลือกที่ไฟล์ header.php เพื่อแก้ไขและใส่คำอธิบายเข้าไปที่ระหว่าง title tag ด้วย Code ดังนี้



Step IV – Meta Tags ใส่คำสำคัญ หรือคำที่เกี่ยวข้อง

Wordpress จะไม่ได้ติดตั้งคำอธิบายหรือคำสำคัญให้ในตอนแรก ซึ่งมีความสำคัญมากถ้าหากว่าเราต้องการที่จะให้ Search Engine ตกหลุมรักในบล๊อคให้ได้ โดยการติดตั้ง All in one SEO Pack plugin ซึ่งเจ้าตัว plugin นี้จะช่วยใส่พวกคำสำคัญเข้าไปในบล๊อคอัตโนมัติ


Step V – Permalinks & Mod_rewrite ปรับปรุง link ของบทความต่างๆ

Search Engine จะเก็บรายละเอียดในหน้าเพจ ของบล๊อคได้เร็วขึ้นถ้าหาก URL อยู่ในรูปของข้อความหรือคำ ซึ่งจะช่วยอธิบายรายละเอียดเนื้อหาของหน้าเพจนั้นๆให้กับเจ้า ตัวไต่ หรือ Spider ได้เข้าใจเร็วขึ้นเช่น URL -> http://siammoney.net/?var1=2345&var2=567 จะไม่ค่อยเป็นมิตรกับ Search Engine เหมือนกับ URL -> http://siammoney.net/my-page.html เป็นต้น โดยใน wordpress สามารถเข้าไปแก้ไขได้ที่ Options-> Permalinks (สำหรับ version 2.5 จะอยู่ในเมนู Settings) และเลื่อนลงไปที่ Common Options:


จากนั้นเลือกที่ Custom และใส่ Code-> %postname%.html เข้าไป ซึ่งจะช่วยในการเปลี่ยน URL ของหน้าเพจนั้นๆโดยเอาชื่อของบทความมาใส่ใน link ให้อัตโนมัติ


 Step VI – Optimization of Keywords ปรับปรุงคีย์เวิรด์ที่สำคัญ

เมื่อเราเขียนหรือโพสต์บทความใหม่ๆ ใน wordpress นั้นควรจะใส่คำหรือคีย์เวิรด์ที่มี ความนิยม เข้าไปในชื่อ หรือเนื้อหา เครื่องมือที่เป็นที่นิยมใช้ในการเช็คค่าความนิยมคือ Overture’s Keyword Suggestion Tool->> http://inventory.overture.com/d/searchinventory/suggestion/

โดยที่ Search Engine จะให้ความสำคัญกับหน้าเพจตามลำดับความสำคัญคีย์เวิร์ดตาม ความนิยม ความถี่ ตรงและใส่เข้าไปกับเนื้อหานั้นๆ


 Step VII – Google Sitemap ทำแผนที่เว็บไซต์

Google Sitemap คือไฟล์ที่บรรจุ URL ข้อมูลของหน้าเพจทุกหน้า ในบล๊อคแต่ก็ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัดว่ามันสามารถทำให้บล๊อคมี ranking ที่ดีขึ้นสิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ตัวเก็บข้อมูลของ Google สามารถเข้ามาเก็บข้อมูลในบล๊อคได้เร็วขึ้นและครบถ้วนนั่นเอง โดยใน wordpress จะมี plugin ที่ชื่อ Google Sitemaps Generator for Wordpress->> http://www.arnebrachhold.de/projects/wordpress-plugins/google-xml-sitemaps-generator/


 Step VIII – Social Bookmarking Plugins เพิ่มสังคมเว็บไซต์ให้กับบล๊อค

ควรจะติดตั้ง plugin ที่เกี่ยวกับ Social Bookmarking เพื่อเพิ่ม traffics และ สังคมให้กับบล๊อคของเรา


ที่มา : A Search Engine Optimization Guide for Wordpress by Jai Nischal Verma (www.blogohblog.com)





ภาพรวมของระบบ Internet Marketing

Labels:

นี่คือภาพรวมของระบบ Internet Marketing และระบบการเป็นตัวแทนโฆษณา ว่าในแต่ละระบบนั้นทำงานและมีความสัมพันธ์กันยังไงบ้าง เพราะอาจจะมีหลายๆคนยังไม่เข้าใจว่าที่จริงแล้วระบบแต่ละอันนั้นมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันเป็นวงจรที่ต้องอาศัยพึ่งพากันและกัน



ระบบ Internet Marketing ที่ผมได้ลองสร้างออกมาเป็นภาพนี้สามารถอธิบายได้คือ บริษัทผู้ผลิตคือผู้ที่ต้องการโฆษณาสินค้าหรือเว็บไซต์ แต่ก็มีข้อจำกัดหลายๆอย่างทั้งในเรื่องงบประมาณและกำลัง ก็เลยต้องอาศัยผู้ที่มาทำโฆษณาแทนให้ เลยทำให้เกิดตัวแทนโฆษณารายใหญ่ขึ้น เรียกว่า Affiliate Network นั่นเอง และตัวแทนโฆษณารายย่อย ที่เรียกกันว่า Advertiser ครับ แล้วจำเป็นไหมที่เรา หรือ Advertiser นั้นต้องไปสมัครต่อจาก Affiliate Network ...ไม่จำเป็นครับ เราสามารถสมัครโดยตรงจากบริษัทหรือเว็บไซต์นั้นๆได้เลย แต่ปัญหาคือถ้าเราสมัครหลายๆแห่งจะทำให้เกิดความยุ่งยากทั้งในเรื่องบัญชีและความเชื่อถือได้ของแต่ละแห่ง แต่ก็มีบางเจ้าที่ไม่ยอมใช้งานพวก Affiliate Network เช้น Amazon เป็นต้น หลังจากที่เราเป็นตัวแทนหรือ Advertiser แล้วหนทางที่เราจะทำการโฆษณาออนไลน์ไปสู่ผู้บริโภคนั้น หัวใจสำคัญก็คือ Search Engine ครับและก็เป็นโอกาสที่ทำให้ Search Engine ยักษ์ใหญ่เช่น Google Yahoo Msn ได้สร้างระบบตัวกลางระหว่าง ผู้ทำโฆษณากับผู้บริโภค เช่น Google Adwords,Yahoo search marketing,Microsoft adCenter ซึ่งจะมีการแข่งขันกันของผู้ทำโฆษณาโดยการใช้ keyword เพื่อที่จะให้โฆษณาของตนโชว์ในหน้าแรก เวลาที่มีผู้บริโภคค้นหาข้อมูลที่ต้องการ ไอ้เจ้าค่าประมูล keyword นี่เองจึงเป็นตัวสร้างกำไรมหาศาลให้บรรดา Search Engine เหล่านี้ครับ
แต่เมื่อมีโฆษณาจำนวนมหาศาลที่รอคิวที่จะแสดงในหน้าแรกนั้นไม่สมดุลกัน ทำให้ search engine ต้องคิดค้นระบบ Ads เช่น Google adsense,Yahoo publisher network ขึ้นมารองรับอีกทีหนึ่ง และก็เป็นโอกาสของ Web master หรือ Blogger ที่จะสามารถทำเงินออนไลน์ได้โดยสมัครเป็น ผู้แสดงโฆษณาทางเว็บไซต์ หรือเรียกว่า Publisher ซึ่ง search engine จะส่งโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาภายในเว็บไซต์หรือบล๊อค ของเรานั่นเองครับ สรุปก็คือเป็น Publisher ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพียงแต่มีเว็บไซต์ หรือบล๊อค ก็สามารถสมัครได้ฟรีทันทีครับ ส่วน Advertiser นั้นก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนของการประมูล keyword แต่ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีศาสตร์ของมัน ถ้าลองศึกษาดูให้ดีก็จะสามารถทำรายได้เหมือนอย่างในบ้านเราตอนนี้ที่มีหลายคนทำประสบความสำเร็จมาแล้ว จริงๆแล้วระบบ Advertising เช่น Google Adwords,Yahoo search marketing,Microsoft adCenter เหล่านี้สามารถประยุกต์ใช้ในการโปรโมท สินค้า เว็บไซต์ ได้อีกทางหนึ่งด้วยครับ



Amazon associate affiliate program

Labels:

ลับ ลอง รวย ทำเงินออนไลน์ด้วย Amazon affiliate program ใช้เวลากี่วันไม่รู้ แต่ทำได้จริง

หลายๆคนคงจะเคยได้ยินชื่อของ Amazon ซึ่งเป็นร้านหนังสือออนไลน์ที่ใหญ่มากแห่งหนึ่ง คนละอันกับร้านกาแฟนะครับ และถือเป็นจ้าวแรกเลยก็ว่าได้ที่เริ่มขายหนังสือทางอินเตอร์เน็ต E-commerce และปัจจุบันได้มีการขยายตลาดโดยเพิ่มสินค้าให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าครอบจักรวาลเลยทีเดียว แต่ตอนนี้ เราไม่ได้เพียงซื้อหนังสือจาก Amazon ไปอ่านอย่างเดียว แต่เรายังสามารถเป็นตัวแทน หรือ Affiliate ได้อีกด้วย ที่ผมต้องกลับมาสนใจเจ้า Amazon affiliate program ก็เพราะว่ากระแสการทำเงินออนไลน์ จาก amazon นั้นกำลังได้รับความนิยมในบ้านเราและตื่นตัวกันมาก มีผู้ที่ทำสำเร็จได้เงินหลักหมื่น ถึง ล้านบาท มีหนังสือออกมาให้อ่านกันมากขึ้น เช่น รวยด้วย amazon,เจาะความลับ จับไต๋อะเมซอน the amazon secrets เป็นต้น หลังจากมัวยุ่งอยู่กับเจ้า Adsense ซึ่งตอนนี้ก็ปล่อยให้มันทำงานของมันไปเรื่อยๆ ก็พอจะมีเวลามาลองศึกษา amazon ดูโดยตั้งเป้าหมายไว้ 3 เดือนและลงมือทำจริงจัง ซึ่งผมจะนำมาเล่าให้เพื่อนๆฟังกันต่อไปก็แล้วกันนะครับ

Start เริ่มต้นด้วยการสมัครขอบัญชีร่วมงานเป็น amazon associates
การสมัครไม่ยากครับกรอกรายละเอียดชื่อที่อยู่ที่จะรับเช็ค และเว็บไซต์หรือ บล๊อก ถ้าหากยังไม่มีก็ให้ไปสร้าง blog จาก blogger.com ที่ผมได้พูดถึงก่อนหน้านี้ไปแล้ว ในส่วนของการรับเงิน your payment method ให้เลือกเป็นเช็ค ไปก่อนครับ พวกนี้สามารถเปลี่ยนแปลงทีหลังได้ถ้าหากว่าจะรับโดยให้โอนเงินเข้าธนาคารในบัญชีของเรา(ได้เฉพาะธนาคารกรุงเทพ)....จากนั้นก็จะสามารถเข้าไปที่หน้าการใช้งานเว็บไซต์แสดงว่าคุณสามารถทำ affiliate กับ amazon ได้แล้ว และถ้าจะให้ชัวร์ควรจะตรวจสอบผลการยืนยันทาง email ว่าเราสามารถร่วมงานได้ ใช้เวลาประมาณ 1 วัน ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เข้าใช้งาน Tool เมื่อ Log in เข้าไปแล้วก็จะเจอกับ เมนู เครื่องมือ การรายงานสถานะต่างๆ ข้อมูลส่วนตัว ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ เริ่มทำงานด้วยเครื่องมือพื้นฐาน Build Links/Widgets ซึ่งจะมีเมนูมากมายให้เราเลือกใช้ทั้งที่เป็นแบบ widget หรือแบบ link เมื่อได้แบบที่เราต้องการก็เพียงแค่คลิกปุ่ม Add to your webpage จากนั้นก็ทำการ copy code หรือ script ไปวางไว้ในเว็บไซต์ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ จริงๆแล้วยังมีเทคนิคอื่นอีกที่จะโปรโมท link ของเราเช่นเอาไปใส่ใน PPC program อย่าง Adwords นั่นเอง

สร้างหน้าสินค้าของเราเองด้วยเครื่องมือ astore
เราสามารถที่จะสร้างหน้าสินค้าของเราเองได้โดยเลือกเมนูเครื่องมือ astore จากนั้นคลิกปุ่ม add an store ซึ่ง amazon อนุญาติให้เราสร้างร้านได้ไม่เกิน 100 ร้านครับ เมื่อได้ชื่อร้านเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าไปทำการตกแต่งร้านซึ่งสามารถจัดหมวดหมู่สินค้าและเลือกสินค้าได้อย่างมากมาย ซึ่งเราสามารถนำ link URL ของร้านหรือ Widget ไปโปรโมทได้เหมือนเดิมครับ

ตัวอย่างร้าน astore
http://astore.amazon.com/siammoney-20



ติดตามความเคลื่อนไหว widgetbucks จ่ายตังค์จริงหรือหลอกกันแน่

Labels:

จากเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา กระแสความนิยมใน widgetbucks ได้พุ่งแรงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือได้ว่าเป็น Ads อีกตัวหนึ่งที่มีลักษณะคล้าย Google Adsense แต่จะต่างกันตรงที่ไม่ได้แสดงรูปแบบการโฆษณาเป็น Contextual Ads แต่จะโชว์เป็นป้ายโฆษณาแทน ผมขอเรียกว่าเป็น Graphic Ads ก็แล้วกัน..ที่ความนิยมใน widgetbucksได้เพิ่มขึ้นมาเร็วอย่างเหลือเชื่อนั้นก็เพราะว่า การจ่ายค่าตอบแทนต่อคลิ๊กถือว่าสูงมากทีเดียวและยังมีรายได้ในส่วนของ referals อีกทางหนึ่ง โดยสมัครรับทันที 25$ แต่ในเวลาอีกไม่นานกระแสความนิยมก็ต้องหยุดชะงักลงทันทีเมื่อมีการออกมาประกาศว่า จะจ่ายตังค์เฉพาะคลิ๊กที่มาจาก U.S. กับ Canada เท่านั้น ทั้งๆที่ในตอนแรกได้บอกเอาไว้ว่ารับผู้สมัคจากบล๊อก หรือเว็บไซต์ทั่วโลกแต่ต้องเป็นภาษาอังกฤษ สำหรับในประเทศไทยเองก็ใช้ติดในเว็บภาษาไทยได้แต่ตอนหลังก็รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ ทำให้บล๊อกชาวไทยต้องผิดหวังกันไปตามๆกัน ก็ต้องถือได้ว่าเป็นประสบการณ์อันหนึ่งที่ทำให้รู้ว่า ควรศึกษาให้ดีๆก่อน หรือหาข้อมูลจากแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้

สำหรับผมเองก็มองว่า การที่ widgetbucks จำกัดไว้แค่ 2 ประเทศก็เป็นเพราะว่ามีกำลังซื้อที่ค่อนข้างสูง ถ้าหากว่ามีการจ่างตังค์ให้สมาชิกจากทั่วโลก ก็คงจะขาดทุนย่อยยับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทาง widgetbucks ก็ควรจะบอกรายละเอียดให้แน่ชัดว่ารองรับภาษาอะไรและประเทศโซนไหนบ้าง ไม่ใช่อาศัยลูกกำกวม เอาข้อมูลไปบอกผู้ที่มาลงโฆษณาให้น่าเชื่อถือเพื่อเพิ่มเครดิตให้กับตัวเอง และถ้าหากจะเปรียบเทียบกับ Google Adsense แล้วถือว่ายังห่างชั้นกันมาก เพราะ Google มีระบบ Google Adwords รองรับซึ่งมีความยื่ดหยุ่นสูงโดยผู้ที่มาลงโฆษณาไม่ได้มาขายสินค้าอย่างเดียว แต่สามารถโปรโมต หรือทำ Marketing ได้อีกด้วย โดยที่ผ่านมา Google Adsense เองก็ยังไม่สามารถนำมาติดที่เว็บไซต์หรือบล๊อกภาษาไทยได้ แต่ตอนนี้มีนักโฆษณาที่เป็นคนไทยและต้องการทำตลาดในประเทศ เพิ่มมากขึ้นเพราะกระแสความตื่นตัวใน Internet Marketing ทำให้ตอนนี้สามารถโชว์ในเว็บภาษาไทยได้แล้ว ในเมื่ออุปสงค์เพิ่มมากขึ้น อุปทานก็จะตามมาเองเป็นเรื่องธรรมดาครับ แต่ผมเองก็ยังไม่เห็นทาง google ออกมาประกาศรองรับภาษาไทย แต่ในเมื่อผู้ทำ Adwords ต้องการทำตลาดในประเทศไทย ถ้าไม่ให้ติดใน blog ไทยแล้วจะให้ไปติดที่ไหน หรือถ้าไปติดในภาษาอื่นก็ถือว่าไม่ตรงเป้า จริงไหมล่ะครับ?



สร้างblogอย่างมืออาชีพด้วย Blogger.com ตอนที่1

Labels:

สำหรับคนที่เริ่มอยากจะลองเขียนบล๊อกหรือเว็บไซต์แต่ยังไม่อยากลงทุนมาก เดี๋ยวนี้มีการให้บริการฟรีบล๊อกกันอย่างมากมาย ทั้งของไทยและต่างประเทศ แต่ที่ผมกำลังจะพูดถึงก็คือ blogger.com เพราะเป็นบริการบล๊อกฟรีของ google และคนที่มี gmail อยู่แล้วสามารถ Log in เข้าไปใช้ได้ทันทีครับ blogger.com นั้นมีข้อดีหลายอย่างคือ มีเครื่องมือหรือ tool ให้ใช้ค่อนข้างเยอะ สามารถแก้ไข ปรับแต่ง Code ได้ การเข้าถึงเว็บไซต์ได้เร็ว และได้เครดิตสำหรับใครที่ทำ google adsense อีกด้วย ...หรือถ้าใครอยากลองของค่ายอื่นก็ตามสะดวกครับ แต่ซักพักคงต้องหันกลับมาใช้เจ้า blogger เหมือนผมนี่แหล่ะ เริ่มสมัครขอบัญชีจาก blogger.com โดยเข้าไปที่หน้า
http://www.blogger.com จากนั้นทำตามขั้นตอนที่แนะนำ หรือใครมีบัญชี gmail อยู่แล้วก็ลงชื่อเข้าใช้งานได้ทันทีครับ



เลือกเมนู สร้างบล๊อก จากนั้นทำการตั้งชื่อบล๊อกที่ตามต้องการ (ไม่ควรยาวมากจนเกินไป)
เมื่อได้ blog เสร็จแล้วก็จะเข้ามาที่ หน้า แผงควบคุม ซึ่งจะมีเมนูหลักๆ คือ การส่งบทความ,การตั้งค่า,รูปแบบ และดูบล๊อก โดยในแต่ละเมนูก็จะมีเมนู่ย่อยๆ ลงไปอีก

เริ่มเขียน blog โดยเลือกเมนูหลัก การส่งบทความ และเลือกเมนูย่อย สร้าง เพื่อทำการเขียนบทความ



เขียนเนื้อหาบทความโดยใส่ชื่อเรื่อง และใส่เนื้อหาตรงช่องสี่เหลี่ยมด้านล่าง ซึ่งจะมีปุ่มเครื่องมือไว้ตกแต่งเนื้อหาเบื้องต้นเช่น ตัวหนา ใส่รูปภาพ ใส่ลิงค์ เป็นต้น ส่วนด้านมุมขวาจะมีแถบเมนูเพื่อให้สามารถสลับโหมดระหว่าง โหมดเขียน กับโหมดที่เป็น Code html (เอาไว้ใช้เวลาแทรก code)
ส่วนช่องป้ายกำกับ(Tag) ก็ให้ใส่คำหรือ keywords ของเรื่อง สามารถมีหลาย keywords ได้ซึ่งจะคั่นด้วยเครื่องหมาย "," เมื่อเขียนเนื้อหาเสร็จแล้ว ก็เลือกที่แถบเมนูด้านล่าง โดยจะเลือกเป็น เผยแพร่บทความ ทันทีหรือจะเลือกเป็น บันทึกไว้แต่ยังไม่ให้แสดงบน blog...ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็สามารถ preview ดูบล๊อกของเราได้ที่เมนู ดูบล๊อก ด้านบนนั่นเอง



สูตรสำเร็จการทำเงินออนไลน์เบื้องต้นสำหรับมือใหม่

Labels:

ในการหาเงินออนไลน์มีหลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Contextual Ads เช่น Google adsense หรือระบบ Affiliate เช่น Amezon และที่กำลังเป็นที่นิยมกันอยู่ในตอนนี้และตื่นตัวกันในบ้านเราก็คงจะหนีไม่พ้นเจ้า adsense+amezon ครับที่จริงๆแล้วยังมีอีกหลายตัวแต่มันยังไม่เป็นที่นิยมและผู้เขียนเองก็ยังไม่ได้ลองอย่างของค่าย Yahoo นั่นเอง ที่ผมพูดถึงเจ้า 2 ตัวนี่ก็เพราะว่าสามารถทำเงินได้จริงๆ และผมก็ทำอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้เงินมาง่ายๆต้องอาศัยกำลังภายใน ประสบการณ์ เทคนิค อยู่บ้างพอสมควร ผมเห็นผู้ที่เริ่มทำใหม่ๆ พอไม่เห็นผลก็เลิกหรือปล่อยทิ้งไปเลย ก็เลยนำเอาเทคนิคที่ผมเคยทำแล้วได้ผลมาฝากกัน หวังว่าคงพอจะเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง
Concept : Blog + Adsense +SEO +Community+learning
1.เขียน blog หรือ website ก็ได้ครับตามใจชอบแต่ถ้าเป็น blog ก็ไม่ต้องลงทุนมากเพราะมีบริการฟรีอยู่แล้ว จากนั้นก็วางกรอบ หรือเนื้อหาที่จะใส่เข้าไป ถ้าทำ adsense ก็ต้องมีเนื้อหาภาษาอังกฤษเพราะมันยังไม่รองรับภาษาไทย แต่ตอนนี้ที่ผมเห็นก็มีโฆษณาภาษาไทยเกิดขึ้นมาค่อนข้างเยอะ คงเป็นเพราะว่ามีนักโฆษณาทำ Adwords กันมากขึ้นและกระแส Internet marketing กำลังมาแรงในบ้านเรา (ย้ำนะครับว่าในตอนสมัคร adsense เนื้อหาควรเป็นภาษาอังกฤษ แต่เราสามารถนำ รหัส ID ที่ได้ไปใช้ในเว็บไซต์ภาษาไทยได้ครับ ส่วนเทคนิคต่างๆเกี่ยวกับ Adsense ก็ไปดูได้ที่หมวดหมู่เรื่อง Google Adsense ครับ)
2. เมื่อสร้าง blog หรือ website เสร็จแล้วก็ไม่ต้องรีบร้อนนะครับใจเย็นๆ บางคนพอสร้างบล๊อค เสร็จก็ใส่ adsense เข้าไปทันที ปรากฏว่ามันโชว์ขึ้นเป็น โฆษณาเพื่อการกุศล นั่นเป็นเพราะว่า google ยังไม่รู้จัก blog ของเราดังนั้น อันดับแรกควรจะต้องทำ SEO ก่อนเริ่มด้วยการ submit url เพื่อให้บรรดา search engine ต่างๆได้รู้จักและมาเก็บเนื้อหาใน blog ของเราซะก่อน รอซักประมาณหนึ่งสัปดาห์ แล้วค่อยลองติด adsene ดูครับ
3. ทำ seo ด้วยเทคนิคอื่นๆ เช่น post ในเว็บบอร์ด หรือ บล๊อกต่างๆ แต่ถ้าจะใช้ email marketing ก็ต้องระวังหน่อยนะครับเพราะ พรบ.คอมฯฉบับล่าสุด ระบุว่ามีความผิดซะด้วยสิ
4. อัพเดทเนื้อหาใน blog อย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรมุ่งเน้นเพื่อที่จะให้ผู้ชมคลิ๊กโฆษณาเพียงอย่างเดียว
5. ใช้ Community ให้เป็นประโยชน์เช่น hi5,myBloglog,Digg,technorati,facebook,flixya
6. วิเคราะห์ traffic ของ blog ด้วยเครื่องมือเช็คสถิติ เช่น histats,feedburner,Google Analytics,Mybloglog หรือเครื่องมือที่ถนัด
7. วาง Adsense ให้เหมาะสมกันเนื้อหา และไม่ควรดูแล้วเลอะหรือรก จนเกินไป

ตัวอย่างการทำ blogger เช่นที่เว็บ http://puritech.blogspot.com
หวังว่าเทคนิคทั้ง 7 ข้อนี้คงพอจะเป็นแนวทางเบื้องต้นสำหรับผู้ที่คิดจะเริ่ม make money online ได้บ้างนะครับ



เคล็ดลับOops ทำ google adsense โดยไม่ต้องมีเว็บไซต์กับ flixya.com

Labels:

สำหรับ Adsense Maker มือใหม่ที่ยังทำเงินไม่ได้ ก็อย่าเพิ่งท้อนะครับ ซึ่งอาจเป็นเพาะว่าเว็บไซต์ยังไม่เป็นที่รู้จักมากพอสมควรนั่นเอง แต่ก็ยังพอมีทางลัดที่จะช่วยเพิ่ม traffics หรือ ยอดคลิ๊กให้นั่นก็คือการฝาก Adsense ID ไว้กับเว็บไซต์ที่ดังๆหรือที่มีการให้บริการ Adsense revenue sharing นั่นเองครับเว็บไซต์ที่ว่าคือ Flixya.com เป็นเว็บไซต์ comunity ที่สามารถให้เราอัพโหลดรูปภาพ หรือวีดีโอ ได้ฟรีครับ คล้ายๆ youtube,myspace แต่ที่พิเศษกว่าคือให้บริการ Google adsense revenue สำหรับสมาชิกที่มี adsense id ด้วย นี่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มรายได้ และสร้าง traffics เข้ามายังเว็บไซต์ของเราครับ เพราะที่ flixya เราสามารถติดต่อสื่อสารกับสมาชิกทุกคนได้ แม้จะไม่มีคนคลิ๊กโฆษณา แต่ก็ยังสามารถช่วยเพิ่ม page impression ทำให้มูลค่าต่อคลิ๊กใน adsense เพิ่มขึ้นอีกด้วย ขึ้นอยู่กับเทคนิคการใช้งานของแต่ละคน และไม่ผิดกฏการทำ adsense ครับ
การสมัครก็ไม่ยากครับเลือก Creat a free account แล้วก็สมัครตามขั้นตอนflixya.com

หลังจาก Login เข้าเว็บไซต์ เลือกเมนู My Account จากนั้นคลิกที่แท็ป Revenue Settings แล้วก็ทำการใส่ adsense id 16 หลักของเราเข้าไปเช่น ca-pub-xxxxxxxxxxxxxxxx เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ Flixya.com จะไม่มีรายได้ตรงส่วนของ refferals เหมือนของ shareapic.net นะครับ หลักการทำงานที่ต้องทำก็ Post รูป หรือ Video เข้าไปใน account และทำการติดต่อทักทายสื่อสารกับสมาชิกคนอื่นๆเท่านั้นเองครับ ...โชคดีมีตังค์ครับผม

ตัวอย่าง Demo Site




รู้จักการทำงานของระบบ Affiliate Marketing กันหรือยัง?

Labels:



หลายคนอาจจะเคยผ่านตามาบ้างนะครับสำหรับคำว่า Affiliate ถ้าถามถึงความหมาย ก็คงหมายถึง การรวมเข้าด้วยกัน เป็นเครือข่ายหรือเป็นพันธมิตรกันนั่นเอง แต่ถ้าพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับ การค้าขายบนอินเตอร์เน็ต (e-commerce)ก็คงจะหนีไม่พ้น Affiliate marketing ซึ่งเป็นเรื่องที่ใหม่สำหรับประเทศไทย แต่ในเมืองนอกกำลังเป็นที่นิยมและทำเงินได้อย่างดีทีเดียว ความหมายของ Affiliate marketing ในความคิดของผมก็คือการตลาดบนระบบเครือข่ายหรือบนโลก online นั่นเอง โดยบริษัทที่ทำธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตไม่จำเป็นต้องโฆษณาสินค้าด้วยตัวเอง
แต่จะเปิดโอกาสให้มีผู้ที่ทำการโฆษณาแทน โดยมีข้อตกลงที่บริษัทจ่ายเงินให้หากสามารถนำคนเข้ามาเยี่ยมชมในเว็บไซต์หรือซื้อสินค้าต่างๆ และการที่จะแนะนำให้คนจำนวนมากแวะเข้ามาในเว็บไซต์ได้นั้น ปัจจุบันนี้จำเป็นต้องใช้ search engine (ที่ได้อธิบายไว้ในหัวข้อเกี่ยวกับ SEO)ในการสร้าง traffics และก็หนีไม่พ้นยักษ์ใหญ่อย่าง google และก็ทำให้ google มีช่องทางที่จะทำกำไรมหาศาลได้ จากระบบ Adsense และ Adwords ซึ่งเป็นตัวกลางระหว่างบริษัทกับผู้ที่โฆษณาแทน ...แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในโลกของการตลาดออนไลน์ (Internet marketing)ย่อมมีทั้งปลาเล็กปลาใหญ่ ดังนั้นก็จะมีพวกตัวแทนรายใหญ่ (Affiliate Network) อย่างเช่น Commision Junction,Click Bank พวกนี้จะทำการรวบรวมบริษัทต่างๆที่ต้องการโฆษณาเอาไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อให้บริการกับบรรดา นักโฆษณา web master หรือ blogger ทั้งหลายได้ใช้บริการอย่างสะดวก และไม่ต้องไปสมัครกับผู้ให้บริการด้วยตัวเองครับ



กฏข้อห้ามในการทำ Google Adsense

Labels:

1. ห้ามทำการดัดแปลง Code อย่างเด็ดขาด โดยต้นฉบับเป็นอย่างไรก็ให้ใส่เข้าไปใน website รูปแบบเดิม
2. ห้าม clickโฆษณาของตัวเอง หรือให้เพื่อน ๆ ช่วย click หรือร่วมกลุ่มผลัดกัน click
3. ห้าม เขียนคำโฆษณาเชิญชวนให้ click หรือเขียนข้อความหลอกให้มีการ click เช่น "ช่วยclick เพื่อสนับสนุเว็บเรา" ให้ใช้ได้แค่เพียง "sponsored links" หรือ "advertisements" เท่านั้น
4. เมื่อ clickโฆษณา Google AdSense แล้วจะต้องไม่เปิดหน้าใหม่ขึ้นมา (_blank)
5. ทำเนื้อหาเพียงเรื่องเดี่ยว แล้ว Copy ออกมาซ้ำกันเป็นหลาย ๆ หน้า
6. ห้าม วาง Google AdSense ในหน้าที่มีการ Download พวก MP3 , Clip Video , News Group ต่าง ๆ หรือหน้าเว็บเปล่า ๆ ที่ไม่มีเนื้อหาอะไรเลย
7. ห้ามวาง Google AdSense ไปใน Mail List ที่ส่งไปหาสมาชิกใน website
8. ห้ามวาง Google Adsense ในหน้าที่ทำขึ้นมาเพื่อ เฉพาะเจาะจงเที่จะให้แสดง Google Adsense

9. ห้ามวาง Google AdSense ที่ Pop Up ของ website ที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ
10. ห้ามใช้ Software เพื่อบังคับให้มีการ click โดยอัตโนมัติ
11. ห้ามใช้ Software เพื่อทำการโปรโมทเว็บไซต์ เช่น Web Promotor
12. เคารพ เครื่องหมายการค้าของ Google อย่าเอาแบนเนอร์ โลโก้ หรือชื่อ ของ Google มาใช้โดยเด็ดขาด
13. องค์ประกอบของ web page จะ ต้องไม่ไปปิดบัง Google AdSense และตัวอักษร จะต้องมองเห็นได้ชัดเจน
14. ถ้ามีอีเมล์ของ Google แ่จ้ง หรือเตือนอะไรมา บางอย่างในสิ่งที่คุณทำผิด ให้รีบตอบอีเมล์นั้นทันที
15. ห้ามวางรูปไว้ใกล้ Ads เพื่อหลอกให้ผู้เข้าชมเว็บหลง click คิดว่าเป็นเนื้อหาของรูปนั้น ๆ (อันนี้เป็นกฎใหม่ครับ)
16. เนื้อหาของ website จะต้องไม่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ ต่อไปนี้
- เว็บที่ใช้ข้อความที่หยาบคาย
- เว็บที่เกี่ยวกับความรุนแรง, การเหยียดเชื้อชาติสีผิว, หรือการสนับสนุนการต่อต้านที่เป็นส่วน
ตัว, กลุ่ม หรือ องค์กรใด ๆ ก็ตาม
- เว็บเกี่ยวข้องกับยาเสพย์ติด หรือเครื่องมือต่าง ๆที่เกี่ยวกับยาเสพย์ติด
- เว็บโป๊, เวบเกี่ยวกับการพนัน, เว็บที่มุ่งเน้นการโฆษณามากเกินไปจนเกินงาม
- เว็บที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น
17. เว็บไซต์ที่ทำ ต้องเป็นภาษาที่ Google สนับสนุนเท่านั้น (ตอนนี้ทาง Google ยังไม่มีการสนับสนุนเนื้อหาที่เป็นภาษาไทยดังนั้น ควรทำเว็บไซต์ให้มีเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษไปก่อนครับ)




ปรับแต่งเว็บไซต์ให้ดังด้วยการ submit URL

Labels:

เริ่มการทำ search engine optimization ด้วยการ Submit URL โดยเป็นหนึ่งในวิธีการที่สำคัญอย่างหนึ่งครับ เพราะหลังจากที่เราสร้าง blog หรือ web site เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์ ดังนั้นการใส่ที่อยู่เว็บไซต์ หรือ URL เข้าไปใน Search Engine จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำในอันดับแรก และก็คงจะหนีไม่พ้นยักษ์ใหญ่อย่าง google ส่วนของค่ายอื่นๆก็เช่น yahoo,live,ask,aol,altavista,lycos,netscape,dmoz เมื่อเราได้แนะนำ website ให้ search engine รู้จักเรียบร้อยแล้ว เจ้าตัว search engine ทั้งหลายก็จะเข้ามาค้นหา และ update ข้อมูลภายในเว็บ และก็ดึงไปเก็บไว้ นอกจาก การ submit URL แล้ว การ add URL เข้าไปในเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงที่เปิดบริการให้เว็บต่างๆเพิ่ม site ลงไปในฐานข้อมูลเพื่อทำการจัดหมวดหมู่และเนื้อหาภายในเว็บเหล่านั้นก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้สามารถโปรโมทเว็บไซต์ได้ มาเริ่มทำการ Submit URL กันเลย
ใส่ Website เข้าไปยัง Google search engine Google Submit
ใส่ Website เข้าไปยัง Yahoo search engine Yahoo submit
ใส่ Website เข้าไปยัง Live search engine MSN Submit

Add URL กับสุดยอดเว็บไซต์ในประเทศไทย

http://webdir.hunsa.com/reg.php
http://webindex.212cafe.com/
http://www.365jukebox.com/md/addweb.html
http://www.kapook.com/links
http://webindex.narak.com/addurl.shtml
http://link.deedeejang.com
http://www.pixiart.com/links/addlinks.php
http://www.saranair.com/links.php?op=AddLink
http://www.eduzones.com/search/addurl.php
http://www.kmitl.ac.th/~kswaiyav/Football/addurl.html
http://www.yoye.com/url/post.htm
http://www.ctv.co.th/dir/add_url.php
http://www.bcoms.net/promoteweb/addurl.asp
http://www.tem100.com/search/addurl.asp
http://www.friend.co.th/Add.asp
http://www.entrance.co.th/links/addurl.asp?categorycode=1
http://www.thaifitway.com/Link/addform.asp
http://www.autodecal.net/add_url_form.asp



paypal ธนาคารออนไลน์

Labels:

ธนาคารกลางออนไลน์ที่มีบัญชีการรับจ่ายเงิน แหล่งใหญ่ของโลก
ทำไมถึงจะต้องใช้ Paypal? ซึ่งแต่ก่อนผมก็เคยสงสัยเหมือนกันครับ ในตอนแรกก็ไม่มีบัตรเครดิต แต่ก็มีทางออกคือไปสมัครบัตร e-web card ของธ.กสิกรไทยซะก่อนเพราะจะต้องนำมาใช้ยืนยัน Verify ในตอนหลัง ซึ่งถือว่าปลอดภัยกว่าบัตรเครดิตอีกด้วย
ที่ต้องใช้ Paypal ก็เพราะว่าเดี๋ยวนี้การทำธุรกรรมออนไลน์ หรือซื้อสินค้าต่างๆ รวมทั้งธุรกิจออนไลน์อีกมากมายต่างรองรับการให้บริการผ่าน Paypal ซะส่วนใหญ่ และสะดวกในการเชื่อมต่อกับบัญชีธนาคารเพื่อถ่ายโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของเรายังไงล่ะครับ ถึงแม้ว่าเราจะใช้บัตรเครดิตแทนได้ แต่ว่ามันไม่สามารถถ่ายโอนเงินกลับมาเข้าบัญชีธนาคารได้ ยักษ์ใหญ่แห่ง E-commerce ที่ใช้ก็เช่น ebays หรือไม่ว่าจะเป็นการจดโดเมนเนม เช่าโฮสติ้ง ก็นิยมใช้กันทั้งนั้นครับ
หากมีบัตรเครดิตหรือ e-web card แล้วก็ คลิกเพื่อเริ่มสู่การสมัคร Paypal ได้เลยครับ
Sign up for PayPal and start accepting credit card payments instantly.
เข้าสู่เว็บไซต์แล้ว คลิกที่ Sign Up เพื่อสมัครสมาชิก ก็จะมีให้เลือกสมัครสมาชิกแบบต่างๆ
มี Personal สำหรับซื้อของ online แต่ไม่สามารถชำระเงินผ่านบัตรเครดิตได้ ไม่แนะนำครับ เพราะไม่สะดวก
แล้วก็จะมี แบบ Premier และแบบ Business แบบ Business จะอยู่ในรูปแบบบริษัท
แนะนำให้สมัคร แบบ Premier เพราะจะสามารถรับเงินได้ไม่จำกัด และสามารถใช้ใน การซื้อขายสินค้า ที่ eBay ได้ และสามารถใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้อย่างสะดวก

เลือกประเทศ Thailand แล้วไปขั้นตอนต่อไป
กรอกชื่อที่อยู่ e-mail แล้วตั้ง Password รหัสกันลืม เหมือนๆกับการสมัคร ทั่วๆไป
อย่าลืมกรอกเป็นภาษาอังกฤษนะครับ
แล้วก็จะมีให้อ่านเกี่ยวกับระบบความปลอดภัย และข้อตกลงต่างๆ ก็ให้ตอบ Yes ทั้งสองข้อครับ
แล้วก็ให้ใส่ อักษรสุ่มที่แสดงให้เห็นในช่องว่าง
จากนั้นระบบจะให้ add บัตรเครดิต ท่านใดมีบัตร E- web card (ถ้ายัง ดูหัวข้อ บัตร K-web shopping card)
ก็กรอกข้อมูล card type แบบ VISA นะครับ
ใส่หมายเลข บัตร ใส่วันหมดอายุ และรหัส 3 ตัวของเครดิตการ์ดของเรา
ระบบก็จะแจ้งว่าคุณได้ทำการ add บัตรเรียบร้อยแล้ว แต่ยังเหลือขั้นตอนในการ ตรวจสอบว่า
บัตรนั้นเป็นของคุณจริงหรือป่าว โดยจะให้คลิก Get Number แต่ก่อนอื่น
เรา cancel ขั้นตอนนี้ไปก่อนก็ได้
ให้เราเข้าไปเช็ค e-mail ของเราก่อน เพื่อคลิกยืนยันการสมัคร Paypal ให้เสร็จก่อน
ก็จะมีลิ้งค์ Activate account ให้คลิก เมื่อคลิกแล้ว ระบบก็จะให้ใส่ password ที่ตั้งขึ้นตอนสมัคร
แล้วกดยืนยัน พอยืนยันแล้วก็กด continue
ก็จะไปที่หน้า บัญชี Paypal
โดยในบัญชี จะยังบอกว่าเราเป็น Unverified
ก็ให้เราคลิกที่เมนูซ้าย ที่เขียนว่า Enroll in Expanded Use เพื่อยืนยันบัตรเครดิต
การยืนยันบัตรเครดิต ระบบจะหักเงินจากบัตร $1.95 หรือประมาณ 70 บาทครับ
(และระบบจะคืนเงิน $1.95 ให้ เมื่อเราทำการสั่งจ่ายเงินออกจาก Paypal ครั้งแรก)
คลิก Get number แล้วก็ Continue
ก็เป็นอันเสร็จ เราก็รอดูรายการการใช้บัตรเครดิต ที่จะรายงานสรุปยอด
สำหรับบัตรเว็บการ์ด ก็ให้รอประมาณ 4 วัน เมื่อ login เข้า เว็บ kasikornbank เพื่อดูยอดบัญชี บัตรเว็บการ์ด
แล้วดูในส่วนการใช้บัตร จะมีแจ้ง เลข 4 ตัว ****PAYPAL ตามด้วย paypal
เป็นการแจ้งว่า เราได้ใช้จ่าย รายการนี้ โดยมีรหัส 4 ตัว
เราก็นำเลข 4 ตัวนี้แหละครับ ในการยืนยันว่าเราเป็นเจ้าของบัตรจริงๆ ไม่ได้นำบัตรใครมาแอบอ้าง
...ก็ให้เรา login เข้า Paypal ดูที่เมนูด้านซ้าย คลิกเข้าไปที่ Complete Expanded Use Enrollment
เพื่อเข้าไปกรอกยืนยัน แล้ว Submit สถานะของบัญชีเราก็จะเป็น Verified
เป็นอันเสร็จสมบูรณ์ในการสมัคร

มาดูภาพรวมของระบบคือ- การที่เราจะใช้เงิน โดยใช้ Paypal ในการใช้จ่ายต่างๆ หรือซื้อสินค้าใน eBay เราไม่จำเป็นต้องเพิ่มเงินใน Paypal เพราะระบบจะทำการดึงเงินจาก Credit Card เราได้เลย

การที่เราจะส่งเงิน เพื่อนำเงินจากบัญชี Paypal ที่เราได้รับจากระบบคลิกเมล์
หรือจากลูกค้าที่จ่ายเงินให้เราในกรณีเราขายสินค้าใน eBay หรือจากอะไรก็แล้วแต่ ...มาใช้จ่าย
ก่อนอื่น เราต้องทำการเชื่อมกับธนาคารในประเทศไทยก่อน
ธนาคารไหนก็ได้ครับ ...ให้เรา login paypal แล้วไปที่ Profile
แล้วไปที่ Financial Information ..แล้วคลิกที่ Bank Accounts
แล้วเราก็เลือก Thailand แล้วกด Continue ก็จะมีให้เลือกธนาคารของเราที่ประเทศไทย
แล้วกรอกเลขที่บัญชีธนาคาร ชื่อบัญชีธนาคาร จะต้องเหมือนกับที่ใช้เปิด paypal นะครับ ก็คือ บัญชีธนาคาร
จะต้องเปิดชื่อเรานั่นเองครับ พอเรากรอกข้อมูลแล้ว ก็ กด Continue
แล้วก็กด Add Bank Account ได้เลย
...(ถ้า Bank account ไม่ตรงกัน หมายถึงชื่อนามสกุลไม่ตรงกัน จะ add ไม่ได้ และจะเสียค่าธรรมเนียม 15 บาทนะครับ)
สำหรับเวลาจะ ถอนเงินจาก Paypal ก็มาที่ เมนู Withdraw
แล้วคลิกที่ Transfer Funds to your bank ใช้เวลา 5-7 วันเงินก็จะเข้าบัญชีครับ ถ้าเงินโอนต่ำกว่า 5000 บาท จะเสียค่าธรรมเนียม 50 บาทครับ ถ้าตั้งแต่ 5พันบาทขึ้นไป ไม่มีค่าธรรมเนียมครับ
(บัตรเครดิตไม่สามารถใช้รับเงินได้ และในทางกลับกัน Paypal ก็ไม่สามารถ ดึงเงินจาก บัญชีธนาคาร ของเราได้ สรุปก็คือใช้บัตรเครดิตในการจ่าย ใช้ธนาคารในการรับเงิน



การสมัคร CJ.com เพื่อเป็นตัวแทนโฆษณาหรือ Affiliate

Labels:

ขั้นตอนการสมัครเป็นตัวแทนโฆษณาก็ไม่ยากครับ เลือกตรงส่วน Publishers จากนั้น Click here to apply for a Commission Junction publisher account. ดังนี้
Step 1
เลือก ภาษา ประเทศ และก็สกุลเงินที่ต้องการให้แสดงผลใน CJ





Step 2
ยอมรับเงื่อนไขและข้อตกลง




กรอกรายละเอียดข้อมูลเว็บไซต์ ยกตัวอย่างในกรณีที่ไม่มี เว็บไซต์



กรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนตัว


ขั้นตอนสุดท้ายใส่ข้อมูลที่จะรับเงิน


หลังจากกรอกข้อมูลครบถ้วนและกดปุ่ม Accept Terms แล้วให้รอรับการยืนยันการสมัครทาง Email ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ครับส่วนการใช้งานค่อยพบกันในบทความถัดไป



วิธีการสมัคร google adsense ให้ผ่าน

Labels:

ในการสมัครให้ได้ Account ของ Google adsense ก็ไม่ยากครับ ลองมาดูขั้นตอนการสมัครซึ่งก็มีข้อจำกัดอยู่หลายอย่าง เช่น ตอนนี้ทาง google ยังไม่มีนโยบายรับเว็บไซต์ที่เป็นภาษาไทย เว็บไซต์ที่มีความสลับซับซ้อนหรือ graphics มากๆส่วนใหญ่จะไม่ผ่าน สำหรับ web master หรือ blogger มือใหม่ ทั้งหลายที่ยังไม่อยากลงทุนมากนัก ก็สามารถใช้บริการของฟรีได้ที่ http://www.blogger.com ซึ่งเป็นบริการฟรีของ google โดยที่เราไม่ต้องไปจดโดเมนเนมในราคาปีละ 300-500 บาท ซึ่งแล้วแต่เราจะไปสมัครกับนายหน้า(reseller)บริษัทไหน และก็ไม่ต้องเสียค่าเช่า hosting อีกเป็นหลักพันบาทต่อปี หรือถ้าหากใครอยากได้โดเมนที่มีชื่อเป็น .com,.net,etc ก็สามารถไปเลือกจดได้ตามใจชอบครับ ส่วนชื่อโดเมนที่ได้จากเจ้า blogger นั้นจะเป็นนามสกุล .blogspot.com ลองมาดู 3 ขั้นตอนสุดง่ายให้ได้บัญชีของ google adsense
1. สมัครใช้ฟรีบล๊อค
2. ลงมือเขียนเรื่องที่สนใจเป็นภาษาอังกฤษ
3. สมัครขอบัญชี google adsense

มาเริ่มสมัคร blogger กันเลยดีกว่าครับ หรือใครจะใช้ฟรีบล๊อคตัวอื่นก็ไม่ว่ากัน แต่ที่ผมเลือกใช้ blogger เพราะจะได้เครดิตจาก google และโอกาสที่จะสมัครได้บัญชี adsense ก็สูงไปด้วยนี่สิสำคัญเลยล่ะ
ในขั้นแรก...สำหรับผู้ที่มีบัญชีของ gmail อยู่แล้วสามารถ login เข้าไปใช้ blogger ได้ทันทีที่หน้าเว็บไซต์ http://www.blogger.com หรือจะสมัครขอบัญชีของ blogger เองก็ได้ครับ เมื่อได้บัญชีมาเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาที่จะลงมือเขียน blog กันซะที! ขั้นตอนการ create a blog หรือสร้างบล๊อค โดยคลิ๊กที่ tab create a blog จากนั้นก็ให้ใส่ชื่อ(blog title) และก็ blog address(url) ในการตั้งชื่อ url นี้ถ้าจะให้ดีไม่ควรจะยาวเกินไปและสื่อความหมายที่สัมพันธ์กับเนื้อหาภายใน blogได้เป็นอย่างดี และก็ควรที่จะทำให้ blog มีเนื้อหาที่ดีและทุ่มเทอย่างเต็มที่ มันจะทำให้ blog ของคุณมีคนแวะเข้ามาเยี่ยมชมบ่อยๆ ส่วนการปรับแต่ง และใส่เนื้อหาเข้าไปใน blog ของเรา ในช่วงแรกควรจะทำเนื้อหาที่เป็นภาษาอังกฤษ หรือถ้าหากจะให้มีภาษาไทยด้วย ก็ควรให้น้อยกว่าภาษาอังกฤษนะครับ เดี๋ยวผมจะอธิบายให้รู้ว่าเพราะอะไร แต่ตอนนี้ก็ทำภาษาอังกฤษไปก่อน โดยเฉพาะในหน้าแรก menu หรือ content ต่างๆควรเป็นภาษาอังกฤษให้หมดครับ ถ้าจะเอาให้ชัวร์ควรใส่อย่างน้อย 2-3 เรื่อง เมื่อใส่เนื้อหาเสร็จแล้วก็ขั้นตอนที่เราจะไปสมัครเพื่อขอบัญชี adsense จาก google

Tips! ...สำหรับใครที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ ก็ลองไปเอาเนื้อหาจากเว็บไซต์ต่างๆประเทศมาใส่ไปก่อน แล้วค่อยปรับปรุงทีหลัง แต่อย่าไปลอกมาทั้งหมด และก็อย่าลืมทำ back link อ้างอิงกลับไปยังเว็บไซต์เพื่อมารยาทที่ดีด้วยนะครับ อันนี้สำคัญมากๆ

การสมัคร adsense โดยเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ของ google adsense
http://www.google.com/adsense

จากนั้นเลือก click here to apply แล้วก็ใส่รายละเอียดข้อมูล
Website URL: [?] ใส่ชื่อเว็บไซต์ของคุณ ตัวอย่างเช่น http://siammoney.net/
Website language: เลือกภาษา ให้เลือกเป็นภาษา English
Account type: [?] เลือกประเภทของเว็บไซต์ ว่าเป็นเว็บส่วนตัว หรือเว็บเกี่ยวกับธุรกิจ
Country or territory: เลือกประเทศ ให้เลือกเป็นประเทศไทย
Payee name (full name): ใส่ชื่อผู้รับเงิน

Tip!... ชื่อผู้รับเงินและประเทศ ไม่สามารถเปลี่ยนได้ในภายหลัง ควรเช็คให้ถูกต้องก่อน สมัครด้วยความระมัดระวัง และข้อมูลต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด

Address line 1: , Address line 2 (optional): ใส่ที่อยู่
City: แขวง/ตำบล
State, province or region: จังหวัด
Zip or postal code: รหัสไปรณีย์
Phone: เบอร์โทรศัพท์ เช่น 02-xxxxxxx ควรกรอก 662xxxxxxx หรือ 081-xxxxxxx ก็เป็น 6681xxxxxxx
Fax (optional): เบอร์ Fax
Email preference: ให้ใส่เครื่องหมายถูก ( Google จะส่งข้อมูลข่าวสารรวมถึงทิปต่าง ๆ มาให้ทาง mail)
Product(s): [?] ให้ใส่เครื่องหมายถูกทั้ง 2 ข้อ ทั้ง AdSense for Content และ AdSense for Search
Policies ให้ใส่เครื่องหมายถูกทั้งหมดเลยครับ อันนี้เป็นข้อตกลงของ Google เช่น จะไม่คลิกโฆษณาบนเว็บของตัวเอง หรือให้คนอื่นคลิก ,ไม่โฆษณาในเว็บที่ไม่เหมะสม ลามกอนาจาร เป็นต้น
Email address: ใส่อีเมล์ของคุณ

เมื่อกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ครบแล้วให้ คลิ๊กที่ Submit Information จะไปที่หน้าแสดงข้อมูลที่เรากรอกไปแล้วและให้เราตรวจสอบให้แน่ใจว่าถูกต้อง โดยส่วนข้างล่าง จะให้เลือกวิธีการ login เข้า account โดยถ้าเลือกข้อแรกในกรณีที่เราใช้บริการในเครือ google เช่น Adwords,gmail,etc ถ้าหากมี บัญชี gmail อยู่แล้ว จึงเลือกใช้ข้อนี้ หรือถ้าหากใครที่มี email อื่นและต้องการ password ใหม่ก็เลือกข้อสองครับ เมื่อเลือกเสร็จแล้วคลิ๊ก Contiune ถ้าหากว่าไม่มี errors ปรากฏก็เป็นอันว่าการสมัครเสร็จเรียบร้อยครับ
หลังจากนั้นเข้าไปเช็คในอีเมล์ที่ได้สมัครไว้ เพื่อยืนยันหลังจากนั้นให้รอประมาณ 2-3 วัน เพื่อที่ Google จะตรวจสอบข้อมูล และจะส่งอีเมล์แจ้งกลับมาว่าสมัครผ่านหรือไม่ (ของผมรอประมาณ 1 วัน ก็ได้รับ email ยืนยันกลับมา)

เมื่อสมัครผ่านเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการ Login เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ของ Google Adsense
เมื่อเข้า Login คร้งแรกจะปรากฎหน้าอธิบายเกี่ยวกับข้อกำหนดของการใช้ Google AdSense ให้ คลิกยอมรับ
ต่อจากนั้น ให้ยืนยันข้อมูลทางภาษี

- คลิกที่ หัวข้อ My Account
- คลิกหัวข้อย่อย Tax Information และให้ทำเครื่องหมายที่วงกลม เลือก No และ กดปุ่ม Continue
- หน้าถัดมา Do you have U.S. Activities related to you participation in AdSense? ให้เลือก No และ กดปุ่ม Continue
- หน้าถัดมา ให้ใส่ชื่อ-นามสกุล เป็นภาษาอังกฤษ ใน Signature of Publisher และถือเป็นลายเซ้นต์ของคุณ จากนั้นก็กดปุ่ม Submit information เพียงเท่านี้ ก็ถือว่าได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาษีอย่างถูกต้องเรียบร้อยแล้ววิธีการเลือกรับเงินรายได้...

- คลิกที่ หัวข้อ My Account
- คลิกหัวข้อย่อย Payment History
- คลิกที่ Please select or verify a form of payment
- ให้ทำเครื่องหมาย ที่วงกลม : Check - Standard Delivery และ กดปุ่ม Continue
- ในหน้าถัดมา ให้เลือกสกุลเงินที่ต้องการ ให้เลือก Thai Baht (THB) และ กดปุ่ม Save change


เราจะได้รับเงินเมื่อไหร่?
Tip!... เมื่อเราสามารถทำรายได้จนยอดถึง $50 ทาง Google จะส่งจดหมายมาทางไปรษณีย์มาตามที่อยู่บ้านเลขที่ เพื่อยืนยันการมีตัวตน ในจดหมายจะมีรหัส Your PIN: เป็นตัวเลข
จากนั้นกลับให้ไปที่เว็บไซต์ Google AdSense
- หลังจาก Login เข้าระบบจะเห็นข้อความ
You payments are currently on hold. Action is required to release payment Click here for details ให้คลิกที่ Click here for details
- ที่ Required Action ให้คลิกที่ Please enter your PIN
- ใส่หมายเลข PIN ของคุณ แล้วคลิก Submit PIN ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยโรงเรียนไทยครับ หลังจากนั้นก็เขียนเรื่องและปรับปรุงเว็บไซต์ ให้ไปดูที่หมวดหมู่เรื่อง SEO ได้ครับ
เว็บไซต์ต้องห้ามสำหรับ Google adsense
-ความรุนแรงต่อต้านบุคอื่นกลุ่มหรือองค์กร
-Hacking
-Spam Keyword
-เว็บไซต์การพนัน
-โฆษณาทำเพื่อโฆษณาเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีเนื้อหาอย่างอื่นเลย
-เนื้อหาที่ผิดกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
-สิ่งกระตุ้นให้ผู้ใช้ บุคคลที่สามมาแสวงหาผลประโยชน์
-อาวุธสงคราม
-ขายเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล
-บุหรี่
-การปลอมแปลงสินค้า
-เว็บไซต์ที่โกหกหลอกหลวง
-เว็บไซต์เกี่ยวกับลามกอนาจาร

ตัวอย่างเว็บไซต์การทำ Adsense จาก blogger http://adsamoney.blogspot.com

หวังว่าคงจะไม่ยาก น่าจะสมัครผ่านกันทุกคนนะครับ ติดตามกันต่อไปคราวหน้า กับเทคนิคทำ Adsense ให้สำเร็จด้วยประสบการณ์จริง ...โชคดีมีตังค์ครับผม






8 สุดยอดวิธีการทำเงินออนไลน์ในยุคดิจิตอล

Labels:

วิธีหาเงินออนไลน์ บนโลกไซเบอร์นี้ที่ได้จริงๆ และถูกต้องแน่นอน ว่าคนที่รวยด้วยอินเตอร์เน็ต หรือ หาเงินทางเน็ต เขาทำกันอย่างไรรับรองไม่ใช่พวกขายตรงแน่นอนครับ มีระดับตั้งแต่เดือนละ $1,000 ถึงระดับมืออาชีพคือ หลายแสนดอลล่าร์ต่อเดือน ....มาศึกษาวิธีที่ถูกต้องกันดีกว่า เพื่อจะได้ใช้เวลาที่เล่นเน็ตให้เกิดประโยชน์ครับ

1. สร้างเว็บไซต์ขึ้นมาแล้วก็โปรโมตให้ดังกระฉ่อน อย่างเช่น http://siammoney.net นี่ไงล่ะครับ-: เมื่อดังแล้วเงินก็มาเอง โดยที่นั่ง ๆ นอน ๆ ทำงานวันละไม่กี่ชั่วโมง แต่แน่นอน ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ ช่วงแรกจะเหนื่อยมากถึงมากที่สุดกว่าเว็บไซต์จะดัง ก็มีรายได้จากโฆษณาเดือนระดับหลักหมื่นบาท วิธีนี้มีเทคนิคที่สามารถสร้าง traffic (คนเข้าเว็บไซต์) ให้เว็บไซต์ดังได้ และมีคนเข้าอย่างน้อยระดับ 1,000 คนถึงหลายพันคนต่อวัน ภายใน 2 เดือน เทคนิคนี้มือโปรมากๆเขามักจะรู้กัน
2. สร้างเว็บไซต์ e-commerce สามารถทำได้ทั้งระดับประเทศและระดับสากล ระดับประเทศทำให้สำเร็จง่ายมาก ใช้เวลาทำเดือนสองเดือนก็สร้างยอดขายอัตโนมัติทุกเดือนได้เลยเ(พราะมีการแข่งขันน้อยมาก) จนถึงใช้เวลาทำนานเป็นปีถ้าต้องเปิดตลาดใหม่เพื่อแนะนำสินค้าบริการอันใหม่ให้รู้จักกันทั่วถึง ระดับสากลจะทำยากกว่าแต่ตลาดจะใหญ่มาก รายได้จะมหาศาล รายได้ระดับประเทศก็จะหลายหมื่นถึงหลายแสน ที่ผมเห็นคนไทยทำโดยทั่วไป ส่วนรายได้ระดับสากลระดับห้าแสนถึงหลายสิบล้านต่อเดือน เวลาทำตอนแรกจะต้องเหนื่อยมาก ก่อนที่จะสบายตอนหลังเมื่อระบบการตลาดมันเดินด้วยตัวของมันเอง case study ระดับประเทศเช่น เว็บขายถุงยาง, เว็บชุดชั้นในวาบหวิว ฯลฯ case study ระดับสากลเช่น thaigem, เว็บขายอุปกรณ์มวยไทย ฯลฯ
3. ทำ Ebay หรือ Auction อันนี้มีตัวอย่างความสำเร็จมากมายของคนไทย เป็น power seller กันแยะ ข้อมูลไปดูที่ รายได้ระดับ 40,000 - หลายแสน อาจถึงระดับล้าน(เป็นบางคนนะครับ) ช่วงต้นก็ต้องลำบากมากๆๆๆ เหมือนเคยเพราะต้องทดลองตลาดที่ขายได้จนเจอ(เสีย cost ไปไม่น้อย) ก่อนที่จะสบาย คือเมื่อจับตลาดสินค้าได้แล้ว ก็เป็นแหล่งทองที่สามารถขุดได้เรื่อย ๆ ไปอีกนานเลยทีเดียว
4. ทำ Affiliate program ทั้งด้วยเว็บไซต์และ google adwords รายได้ตรงนี้มีตั้งแต่ระดับ 1,000 ดอลล่าร์ ถึง หลายแสนดอลล่าร์(พวกโครตเซียน ส่วนมากจะเป็นฝรั่ง) affiliate program คือ การหารายได้โดยการที่เป็นตัวแทนไปตกลงกับเจ้าของสินค้าว่าจะแนะนำลูกค้าให้ โดยการทำ link ไปยังเว็บไซต์ของเขา ลูกค้าจะถูก track ด้วย cookie เป็นระยะเวลาช่วงหนึ่ง ๆ (แล้วแต่เงื่อนไขของบริษัทเขา)ถ้าลูกค้าซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ ก็จะได้ค่าคอมมิชชั่นตามที่ตกลงไว้ ตัวอย่างสินค้าที่คุณสามารถเลือกโปรโมตได้มีตั้งแต่สากะเบือยันเรือรบ เป็นสินค้าบริษัทยักษ์ใหญ่มากมายเท่าที่คุณจะนึกออก เช่น ebay, dell, morgan stanley,amazon,adwords ฯลฯ รายละเอียดต่าง ๆ มีมากมาย มีคนสร้างรายได้ด้วยวิธีนี้กันหลายแสนคนทั่วโลก มีระบบการทำและให้คำแนะนำกันมากมาย และแน่นอนทำไม่ง่ายอีกเช่นเคย จะว่าไปถึงขั้นให้สำเร็จยากเลยล่ะ แต่ถ้าทำสำเร็จเมื่อไร รายได้ที่ได้จะ automatic อย่างมากมายทันทีแม้คุณจะนั่งกินนอนกินทั้งปีก็ตาม
5. ทำ Google adsense คือการเข้าร่วมการโฆษณาของกูเกิ้ลในเว็บไซต์ของคุณ โดยที่คุณยอมเสียพื้นที่โฆษณาของคุณให้กูเกิ้ลลง คุณจะได้รายได้เมื่อมีคนคลิ๊ก (ทำได้เฉพาะเว็บภาษาอังกฤษ) โดย google จะเป็นคนจ่ายให้คุณ วิธีนี้มีคนนับล้านคนหารายได้เสริมจากทางนี้ พวกเซียน ๆ (ที่ไม่ใช่บริษัทใหญ่ ๆ แต่เป็นคนทั่วไปแบบเรานี่ล่ะ)มีรายได้สบาย ๆ จากทางนี้ขั้นต่ำเดือนละ 1,000 ดอลล่าร์ถึงหลายหมื่นดอลล่าร์ กันหลายคน วิธีการสร้างเว็บเป็นภาษาอังกฤษเหมือนจะยุ่งยาก แต่มันก็มีเทคนิคการสร้างเช่นกัน ให้เสร็จภายในระยะเวลาไม่นาน โดยมีเนื้อหานับร้อย ๆ หน้า หรือจะไปซื้อจาก ebay ก็มีขายเยอะแยะ แต่ที่ยากคือการโปรโมตให้คนเข้ามาเยอะ ๆ แต่พวกเซียน ๆ ก็มีสารพัดเทคนิคทำสำเร็จภายในไม่กี่เดือน แต่ก็เหมือนเดิม ต้องเหนื่อยมาก ๆ ค่อนข้างยากในตอนแรก ลองดูตัวอย่างได้ที่ http://puritech.blogspot.com/
6. รายได้จาก domain seller จะมีพวกเซียนที่ทำการจดโดเมนสวย ๆ มาขายต่อในราคาแพง พวกนี้เก่งจริง ๆ แล้วมีประสบการณ์ในการรู้มูลค่าของชื่อได้ดี และรู้ระบบการตลาดในการขายที่เยี่ยมยอด ที่ผมเห็นหลายรายจดโดเมนมา $10 ขายต่อไปในราคา $100 – หลายพันดอลล่าร์ บางชื่อระดับหมื่นดอลล่าร์ (อย่างเว็บ Thailand.com ซื้อมาในราคาร้อยล้านบาท) คนที่ทำกันจริงจังมีโดเมนอยู่ในมือนับหลายร้อยชื่อเลยทีเดียว แต่ต้องมีประสบการณ์ไม่งั้นก็อาจเจ๊งได้ง่าย ๆ เช่นกันเพราะต้นทุนเยอะ
7. รายได้จาก parking domain พวกนี้จะไปจดโดเมนดัง ๆ ที่หมดอายุแล้วเจ้าของไม่ต่อ แล้วเอาไป parking คือฝาก dns ไว้ที่ sedo.com เวลามีคนเข้าเว็บมาก็จะเจอหน้า parking ที่มีโฆษณา แล้วก็ได้รายได้เป็น pay per click พวกเซียน ๆ จะมีเป็นร้อยโดเมนเลยทีเดียว สร้างรายได้ให้เขาระดับนับหมื่นดอลล่าร์ต่อเดือนสบาย ๆ โดยวัน ๆ ไม่ต้องทำอะไร และแน่นอนมันก็ไม่ง่ายอีกเช่นกัน แม้แต่ละวันจะมีโดเมนที่หมดอายุนับหมื่นชื่อทุกวัน แต่ก็มีคนพวกนี้ที่มีเครื่องมือชั้นยอดคอยจ้องฉกเว็บชิ้นปลามันไปกินมากมาย
8. รายได้จากการขาย ebook หรือ software (ส่วนมากจะเป็น ebook) พวกนี้จะเขียน ebook ขึ้นมาเล่มนึง แล้วก็ไปเช่าเว็บโฮส เขียน selling killer ads เป็นโฆษณาแบบ sale letter ที่อ่านแล้ว โอ้โห มันยอดมาก สุดยอดอะไรเช่นนี้ ทำให้อยากซื้อมาก ๆ แล้วก็สามารถจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตแล้ว download สินค้าได้ทันทีเลย วิธีนี้สำคัญที่ sale letter ads page กับการโปรโมต ถ้าโปรโมต traffic อย่างถูกวิธี พวกเซียน ๆ อีกเช่นเคย ทำมาจนเซียน อยากหาเงินเมื่อไรก็ได้ เพราะเขาบรรลุวิธีการตลาดหมดแล้ว สามารถโปรโมตอีบุ๊คธรรมดาทั่ว ๆ ไปให้มียอดขายได้ไม่ตำกว่า 300-1000 sale download ราคาต่อเล่มประมาณ $30-$100 มีรายได้ต่อเดือนประมาณ $9,000 ถึง 100,000 ดอลล่าร์ เลยทีเดียว
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งในวิธีการสร้างรายได้ทางอินเตอร์เน็ตที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ตอนนี้ในต่างประเทศ ที่ต้องใช้ความรู้ ความพยายาม และยังมีเทคนิคหรือวิธีการอื่นๆ อีกมาก...ถึงเวลาที่จะสนุนคนไทยให้สามารถสร้างรายได้ออนไลน์ ช่วยกันโกยเงินดอลลาร์เข้ามาประเทศของเรา หรือถ้าใครพอจะรู้วิธีอื่นๆก็สามารถนำมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ



RSS คืออะไร?

Labels:

rss
ปัจจุบัน RSS ถูกนำมาประยุกต์ใช้เป็นรูปแบบกลางในการบริหารข้อมูลทางธุรกิจ และมีการแข่งขันกันสูง โดยเฉพาะธุรกิจที่มี การแชร์ข้อมูล เช่น เว็บไซต์ข่าว เว็บล็อก ซึ่งจะมีการแสดงข้อมูลบนหน้าต่างพรีวิวแยกต่างหาก เพื่อให้ผู้ใช้ไม่สับสน รวมถึง สามารถสืบค้นข้อมูลได้


RSS ย่อมาจาก Really Simple Syndication คือ บริการที่อยู่บนระบบ อินเตอร์เน็ท จัดทำข้อมูลข่าวสารให้อยู่ในรูปแบบ XML เพื่ออำนวยความสะดวกให้ กับผู้ใช้ โดยส่งข่าวหรือข้อมูลใหม่ๆ ให้ถึงเครื่องตลอดเวลาที่มีการ Updateไม่ต้อง เสียเวลาเปิดเว็บไซต์เข้ามาค้นหา


ข้อดีของ RSS
RSS ช่วยลดข้อจำกัดในการคัดลอกข้อมูลในเว็บไซต์ โดยเฉพาะกรณีการละเมิด ลิขสิทธิ์ขณะที่ผู้สร้างไม่ต้องเสียเวลาทำหน้าเพจแสดงข่าว ซึ่งต้องทำทุกครั้งเมื่อ ต้องการเพิ่มข่าว โดย RSS จะดึงข่าวมาอัตโนมัติ ทำให้ข้อมูลในเว็บไซต์เป็น ศูนย์กลางมากขึ้น

จุดเด่นของ RSS คือ ผู้ใช้จะไม่จำเป็นต้องเข้าไปตามเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อดูว่ามีข้อมูล อัพเดทใหม่หรือไม่ ขณะที่เว็บไซต์แต่ละแห่งอาจมีระยะความถี่ในการอัพเดท ไม่เท่ากัน บางครั้งผู้ใช้ยังอาจหลงลืมจนเข้าไปดูเนื้อหาอัพเดทใหม่บนเว็บไซต์ ไม่ครบถ้วน รูปแบบ RSS จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับข่าวสารอัพเดทใหม่ได้ โดยไม่ต้องเข้าไปดูทุกครั้งให้เสียเวลา ซึ่งจะได้ประโยชน์ทั้งฝ่ายผู้บริโภคและ ฝ่ายเจ้าของเว็บไซต์



รู้ได้อย่างไรว่าเว็บไหนมีบริการ RSS
สังเกตได้จากสัญลักษณ์ที่มีเครื่องหมาย xml คืออะไร หรือ rss คือ ส่วนใหญ่มักอยู่บริเวณเมนูหลักของเว็บ หรือบริเวณส่วนล่างของหน้าเว็บเพจ
rss
ที่มา : bangkokbiznews.com





PURI Tech-Money Online for blogger