Adsense ประกาศปรับเปลี่ยนระบบโฆษณาใหม่
เมื่อเดือนที่ผ่านมา ผู้ที่เป็น Adsense publisher คงจะได้รับการแจ้งข่าวทางจดหมายแล้วว่า จะมีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงระบบโฆษณาใหม่ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงในส่วนของระบบ Google Adwords โดยจะให้ผู้ที่เป็นตัวแทนโฆษณา หรือ Advertiser นั้นสามารถกำหนดและควบคุมการแสดงโฆษณาไปยังเป้าหมายของบล๊คหรือเว็บไซต์ต่างๆได้
และสิ่งที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ก็คือระบบ Ad planner(ยังอยู่ในช่วงทดสอบ) ที่จะทำให้ผู้ที่เป็นตัวแทนโฆษณา หรือ Adwards นั้นสามารถค้นหาเว็บไซต์ หรือบล๊อคที่ต้องการได้และสามารถควบคุมการแสดงโฆษณาทั้งในส่วนของ keywords ที่เกี่ยวข้องและตำแหน่งที่ต้องการให้โฆษณาวางเอาไว้ แต่สำหรับ publisher ทั้งหลายก็ไม่ต้องตกใจนะครับ เพราะไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรเลย เพียงแต่มีข้อดีสำหรับเหล่า blogger ที่จะได้เปรียบบรรดาเว็บไซต์ต่างๆในการเข้าถึงและดึงดูดความสนใจกับ Advertiser มากกว่าเว็บไซต์ที่รวมมีเรื่องหัวข้อที่ต่างกันมากๆนั่นเอง
นี่ก็นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับนักทำ Adwords เลยที่เดียวที่ Google พยายามที่จะแก้ไขข้อบกพร่องในการแสดงโฆษณาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ผู้ลงโฆษณาต้องการครับ
9/24/2008 08:24:00 PM | 0 Comments
Google Adsense ประกาศปิดระบบ Referrals program และเปลี่ยนมาใช้เป็น Google Affiliate Network
9/17/2008 03:45:00 PM | 0 Comments
สุดยอด 4 วิธีในการใช้ Social Media เพื่อเพิ่มTraffics
1. เริ่มจากการเพิ่มเพื่อนด้วย Activity : อ่านเนื้อหาหรือบล๊อคต่างๆที่คุณสนใจ และทำการคอมเม้นท์ หรือตอบคำถาม โดยการใช้ Social ซึ่งสามารถค้นหาได้จากพวก Twellow.com, FriendFeed.com, FeedRinse.com, Zaptxt.com, Alerts.com
2. ใช้เทคโนโลยี web 2.0 เพื่อเผยแพร่บทความและเพิ่มจำนวนสมาชิก : ทำการให้บริการบทความแบบฟรีๆ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ ด้วย RSS reader, Google Reader, iGoogle, MyYahoo หรือของค่ายอื่นๆ และสามารถใส่บทความกับเว็บไซต์ที่ให้บริการใช้ Social ฟรีอย่างเช่น Dapper เพื่อนำ Traffics กลับมายังเว็บไซต์หรือบล๊อคของเรา อันนี้ใช้ได้ดีมากๆครับ
3. โปรโมทบล๊อคด้วย Email Newsletter ฟรีๆจาก Feedburner
4. โปรโมทด้วย Social Media ดังๆอย่างเช่น youtube, delicious, myspace หรืออื่นๆอีกมากมาย
9/14/2008 10:36:00 AM | 0 Comments
AOL ปรับกลยุทธ์ติด RSS และ Liftstreaming ขึ้นแท่นอันดับ2 Social networks
เมื่อปีที่แล้วมีการแข่งขันของข้อมูลข่าวสารกันอย่างดุเดือน ทำให้เกิดเว็บไซต์ประเภท social networks ขึ้นอย่างมากมาย โดยผู้ใช้คนหนึ่งนั้นสามารถที่จะสมัครเป็นสมาชิกได้หลายเว็บไซต์ อย่างเช่น จำนวนสมาชิกของ Facebook ทั้งหมดจะเป็นสมาชิกของ Myspace ด้วยถึง64% หรือจำนวนสมาชิกของ Myspace ทั้งหมดจะเป็นสมาชิกของ Facebook ด้วย 20% แสดงว่า Myspace สามารถดึงความสนใจจาก social networks ได้อย่างดีเยี่ยม โดยเปรียบเทียบได้จากแผนภาพข้างล่าง
จะเห็นได้ว่า Facebook และ Myspace นั้นมีอัตราการเจริญเติบโตของสมาชิกที่รวดเร็วมาก และเป็นฐานสมาชิกซึ่ง จะนำ Tracking ไปยัง AOL จนสามารถขึ้นเป็นอันดับสองของเมื่อเดือนที่แล้ว
ในปัจจุบันนั้นผู้คนนิยมในการใช้ RSS เพื่ออับเดทข้อมูลข่าวสารโดยอัตโนมัติ ซึ่งต่างจากหลายปีที่ผ่านมาที่ต้องวิ่งไปหาข้อมูลข่าวสารด้วยตัวเอง และนับได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดการไปมาหาสู่กันระหว่างบล๊อคหรือเว็บไซต์ได้อย่างดีทีเดียว
9/09/2008 09:52:00 PM | 0 Comments
จุดอ่อนเรื่องความปลอดภัยที่อันตรายใน Google Chrome Browser
ในที่สุด google ก็ได้ประกาศธงรบท้าชนสู้ศึกเต็มตัวกับ microsoft ด้วยการเปิดตัว Google Chrome บราวเซอร์ตัวใหม่ ที่จะมาเขย่าบัลลังค์จาก Internet Explorer ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งในปัจจุบัน รองลงมาก็คือเจ้า Mozzilla นั่นเอง ที่ผ่านมา google ก็ได้ให้การสนับสนุน mozzilla มาโดยตลอดอยู่แล้ว แต่จะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม google ตัดสินใจที่จะลงมาลุยตลาดด้าน browser เอง ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่ามันน่าจะช่วยทำให้สามารถสนับสนุนการทำงานของ google ให้เต็มประสิทธิภาพ มากกว่าที่จะไปยืมจมูกคนอื่นหายใจ โดยกำลังเร่งพัฒนาให้รองรับแมคโอเอส และลินุกส์ต่อไป ล่าสุดยังไม่ทันข้ามวัน เว็บไซต์สำหรับดาวน์โหลด Google Chrome ก็ล่มเสียแล้ว
Chrome (โครม) นั้นถูกจับตามองมานานแล้วหลังจากที่มีข่าวลือว่ากูเกิลกำลังซุ่มเงียบพัฒนาโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ของตัวเอง ที่จะสามารถดับจุดอ่อนในไออีได้ในขณะที่ผู้ใช้จะสามารถใช้งานเสิร์ชเอนจิ้นของกูเกิลได้ง่ายขึ้น แน่นอนว่าความเคลื่อนไหวนี้ของกูเกิลเป็นเรื่องไม่ธรรมดา และวิธีการเปิดตัว Chrome ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน กูเกิลเปิดตัว Chrome ด้วยหนังสือการ์ตูนความยาวเกือบ 40 หน้าบอกเล่าเรื่องราวรายละเอียดเบราว์เซอร์ใหม่ล่าสุด ภายในมีข้อมูลว่าผู้พัฒนาเบราว์เซอร์น้องใหม่ยอดฮิตอย่างไฟร์ฟ็อกซ์ (Firefox) และอดีตทีมงานมอซิลลามากกว่า 2 คนรวมอยู่ในทีมพัฒนา Chrome ด้วย สามารถอ่านการ์ตูนฉบับเต็มที่http://www.google.com/googlebooks/chrome/index.html ขณะเดียวกัน หลายฝ่ายเชื่อว่า Chrome ถูกเปิดตัวมาเพื่อจู่โจมไออี 8 ซึ่งเปิดทดสอบเวอร์ชัน 2 ไปเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ไออี 8 นั้นมีจุดเด่นเรื่องการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ซึ่งทำให้กูเกิลและเครือข่ายโฆษณาออนไลน์อื่นๆติดตามข้อมูลพฤติกรรมของนักท่องอินเทอร์เน็ตเพื่อนำไปวิเคราะห์และประยุกต์ให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจโฆษณาออนไลน์ได้ยากขึ้น แต่จากการ์ตูนเปิดตัว พบว่าจุดยืนของ Chrome และไออี 8 นั้นต่างกัน โดย Chrome เน้นการจัดการหน่วยความจำเพื่อรักษาประสิทธิภาพด้านความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ การปรับปรุงอินเทอร์เฟสหรือหน้าตาโปรแกรมให้สามารถใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น มีการปรับให้แท็บย้ายไปอยู่เหนือแอดเดรสบาร์ และการฝังระบบบริการจากกูเกิลและค่ายอื่นลงไปให้ครบเครื่องเหมือนไฟร์ฟ็อกซ์และไออี 8 ที่สำคัญคือการแสดงรายชื่อมัลแวร์หรือซอฟต์แวร์ประสงค์ร้ายต่างๆเพื่อเตือนผู้ใช้ พร้อมลูกเล่นอื่นๆที่กูเกิลเตรียมไว้เพื่อเอาใจนักท่องเน็ต Sundar Pichai รองประธานฝ่ายจัดการผลิตภัณฑ์ของกูเกิล โพสต์ข้อความในบล็อกของตัวเองว่า "ในยุคที่เว็บไซต์มีคุณสมบัติและพัฒนาการเยี่ยมยอดแบบฉุดไม่อยู่ Chrome คือทางเลือกหนึ่งซึ่งเราหวังให้สามารถรองรับการแสดงผลเว็บเหนือชั้นในอนาคตได้ต่อเนื่อง" Chrome จึงถูกการันตีว่าเป็นเบราว์เซอร์ที่เหมาะกับการแสดงคอนเทนท์ไดนามิกหรือเนื้อหาเว็บไซต์ที่มีการโต้ตอบมากๆ เช่น เว็บไซต์ทีวี วิทยุ และหนังสือพิมพ์ออนไลน์ เพียงแค่วันแรกของการเปิดตัวเบราว์เซอร์ กูเกิลก็ถูกวิจารณ์ว่าพยายามผูกขาดในตลาดออนไลน์เสียเองแม้จะต่อต้านไมโครซอฟท์ไม่ให้ผูกขาดตลาด อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กูเกิลยังต้องฝ่าฟันก่อนจะผูกขาดตลาดเบราว์เซอร์ได้ หนีไม่พ้นไมโครซอฟท์ที่ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 75 เปอร์เซ็นต์ของนักท่องเน็ตทั่วโลก สำหรับไฟร์ฟ็อกซ์ซึ่งมีส่วนแบ่งมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์นั้นก็คาดว่าต้องแข่งขันเฉือนคมเช่นกัน แม้ว่ากูเกิลจะประกาศขยายระยะเวลาเป็นพันธมิตรในธุรกิจโฆษณาออนไลน์กับไฟร์ฟ็อกซ์จนถึงปี 2011 แล้วก็ตาม
Chrome นั้นยังคงมีปัญหาข้อบกพร่องในเรื่องความปลอดภัยต่อเนื่องมาจากเวอร์ชันก่อนในชื่อว่า Webkit โดยที่สามารถถูกจู่โจมได้อย่างง่ายดาย ด้วย executable java เช่นหลังจากผู้ใช้งานดับเบิ้ลคลิ๊ก เพื่อดาวน์โหลด โปรแกรมจะถูกเปิดโดยปราศจากการเตือนทำให้ง่านต่อการ Hack นั่นเอง และสิ่งที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้ก็คือข้อมูลทุกอย่างจะถูกส่งไปเก็บไว้ที่ google ทั้งหมด แล้วอย่างนี้ความเป็นส่วนตัวของเราคงจะไม่มีอีกต่อไป
มาดูหน้าตาของ Chrome (ดาวน์โหลด)
9/08/2008 03:46:00 PM | 1 Comments